GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
[ Review ] Crash Bandicoot 4: It's About Time สานต่อตำนานหนูพุกอีกครั้งให้แฟนๆ หายคิดถึง
ลงวันที่ 17/03/2021

Crash Bandicoot 4: It's About Time

Platform: Nintendo Switch

Genre: Action 3D, Adventure

Crash Bandicoot เป็นเกมแนว Action 3D ที่พัฒนาโดย Toys for Bob และเผยแพร่โดย Activision เป็นแฟรนไชส์เกมภาคต่อ จากแพลตฟอร์ม PlayStation 1 ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อปี 1996 - 1999 ที่มีด้วยกันถึง 3 ภาคหลัก และนอกจากนั้นยังวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอื่นๆ อีกเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ถูกนับเป็นภาคหลักแต่อย่างใด… 

จนถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นเวลากว่า 20 ปี กับการกลับมาของ Crash Bandicoot ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้นับว่าเป็นภาคต่ออย่างเป็นทางการ และเป็นที่รอคอยของแฟนๆ

เนื้อเรื่อง

การกลับมาในครั้งนี้จะเป็นเนื้อเรื่องต่อจาก Crash Bandicoot 3: Warped โดยตรง หลังจากที่จัดการวายร้ายอย่าง Dr. Neo Cortex กับ Dr. Nefarious Tropy รวมถึง Aku Aku ด้วยการจับส่งทั้งสามให้ไปอยู่ในต่างมิติ เพื่อไม่ให้ออกมาสร้างความเดือดร้อนได้อีกตลอดไป   จนกระทั้ง Aku Aku ได้ทำการเปิดประตูมิติสำเร็จ ทำให้ทั้งหมดหนีออกมาได้ 

แต่ผลกระทบจากการเปิดประตูมิตินั้น ทำให้มิติเวลารวมถึงจักรวาลเกิดความปั่นป่วน จนทำให้เกิด Multiverse หรือจักรวาลคู่ขนานขึ้นมากมาย และถึงคราวที่เหล่าวายร้ายได้ทำการวางแผนควบรวมยึดครองทั้งจักรวาล !!

ดังนั้น Crash และ Coco (น้องสาว) จะต้องร่วมมือกันออกผจญภัยอีกครั้ง เพื่อตามหาธาตุทั้ง 4 ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการหยุดยั้งแผนการร้ายในครั้งนี้ และผนวกพลังของจักรวาลเข้าด้วยกัน เพื่อให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางกลับสู่สภาวะดังเดิมอย่างที่ควรจะเป็น

ประตูมิติที่ถูกเปิด จุดเริ่มต้นของเรื่องราวในภาคนี้


เกมเพลย์/ระบบการเล่น

คราวนี้มาในส่วนของเกมเพลย์กันบ้าง 

Crash Bandicoot 4 ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของภาคก่อนๆ ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นมูฟเมนท์การบังคับตัวละคร การเปลี่ยนมุมมองเกมเพลย์ภายในด่านที่มีความหลากหลาย และยังคงความเป็นรูปแบบการผจญภัยที่มีกับดักมากมาย พร้อมกับศัตรูหลากหลายรูปแบบ ที่เราจะต้องใช้วิธีรับมือแตกต่างกันออกไป 

มีการเดินเรื่อง/ระบบการเล่นเป็นเส้นตรง มีความสลับซับซ้อนค่อนข้างน้อย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเล่นให้ผ่านได้ง่ายๆ มีระบบ Checkpoint ภายในด่าน และยังคงรูปแบบความเป็น World Part เหมือนเดิม (แต่ในภาคนี้จะเรียกว่า Dimensional map) 

พูดง่ายๆ ว่า  ใน 1 เวิลด์จะประกอบไปด้วย 5-6 ด่าน และด่านสุดท้ายก็จะมีบอสประจำเวิล์ด ถ้าเล่นผ่านก็สามารถไปเวิลด์ถัดไปได้ หรือด่านที่ผ่านไปแล้วก็สามารถกลับมาเล่นเพื่อเก็บของให้ครบได้อีก  หรือจะแข่งกับเวลาในโหมด Time Trial ที่เน้นเร็วเน้นไวก็ได้ เพื่อเก็บ Relics  ทำให้มีเหตุผลในการกลับมาเล่นด่านเหล่านี้หลายครั้ง   โดย Time Trial จะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ Sapphire, Gold, Platinum จากน้อยไปมากตามลำดับ    ขึ้นอยู่กับเวลาที่ใช้ผ่านด่านเหมือนกับในภาค 3   และยังมีด่านพิเศษที่เป็นไซต์สตอรี่ของตัวละครอีกด้วย   รับรองว่าจุใจเหล่าแฟนๆ   หนุ่ม   Crash   แน่นอน

รวมถึงยังคงมีการเก็บกล่องให้ครบตามจำนวนที่แต่ละด่านกำหนด เพื่อแลกกับเพชรสีขาวเช่นเดิม และยังมีการเก็บเพชรสีเพื่อปลดล็อค Bonus Stage หรือสถานที่ลับในด่านต่างๆ (แต่ระบบการเก็บแอปเปิ้ลเพื่อสะสมเป็นไลฟ์อัพถูกยกเลิกไปแล้ว) 

Dimensional Map


ระบบที่เสริมเข้ามาในภาคนี้ 

เริ่มเกมเลยเราสามารถเลือกโหมดที่จะเล่นได้ระหว่าง Modern Mode กับ Retro Mode โดยระบบในการเล่นทั้งสองโหมดจะแตกต่างกันออกไป ผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครที่จะเล่นได้สองตัวตั้งแต่เริ่มเกม ซึ่งก็คือ Crash ตัวเอกของเรา และ Coco น้องสาวของของเขา ทั้งสองมีรูปแบบมูฟเมนท์การเคลื่อนไหวเหมือนๆ กัน 

การเลือกเล่นตัวละครจะไม่ได้เป็นการเลือกในรูปแบบโหมด แต่เป็นการเลือกก่อนที่จะเริ่มด่าน หรือเริ่มเล่นในด่านนั้นๆ นอกจากการเลือกตัวละครเพื่อเล่นแล้ว ยังสามารถเลือกชุด (Skin) ของตัวละครได้อีกด้วย ทั้งนี้ชุด (Skin) จะต้องผ่านการปลดล็อกจากการทำภารกิจซะก่อนจึงจะเลือกมาใช้ได้

ในหนึ่งด่านจะมีการเก็บเพชรสีขาวที่เพิ่มมากขึ้น   (จากเดิมมีเพชรสีขาว 1เม็ด/1ด่าน) โดยจะมีเพชรสีขาวหกเม็ดต่อ 1 ด่าน การเก็บเพชรจะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดต่างๆ เช่น จำนวนแอปเปิ้ลที่เก็บ จำนวนครั้งที่เราตาย เพชรที่ซ่อนอยู่ตามด่าน และการเก็บกล่องในด่านให้ครบเหมือนภาคก่อนๆ

มีการเก็บไอเทม Flashback Tapes เพื่อปลดล็อคด่านพิเศษภายใน (Flashback Tapes Level) อีกที และภายใน Level จะเป็นด่านคล้ายๆ กับโบนัสสเตจที่เป็นการเก็บกล่องโดยเฉพาะ เพียงแต่จะมีความยาวและความยากกว่าพอสมควร ถ้าหากเล่นไปได้สักพักจะมีโหมดกลับซ้าย-ขวา N. Verted เข้ามาเสริมในทุกๆ ด่านอีกด้วย

ทางด้านตัวละคร จะมีตัวละครเพื่อนใหม่อย่าง Tawna ที่จะมีไทม์ไลน์เนื้อเรื่องของตนเอง เป็นเนื้อเรื่องคู่ขนานกับเนื้อเรื่องหลักของพวก Crash และธีมหลักของภาคนี้เลยก็คือพวก Quantum Masks ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือน Uka Uka ซึ่งจะมีเอกลักษณ์/สกิลเฉพาะตัวเมื่อสวมใส่ เพื่อนำความสามารถนี้ใช้ในการผ่านฉากที่มีรูปแบบเฉพาะ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกมมีความหลากหลายในการเล่นมากขึ้น รวมถึงตัวละครอื่นๆ ที่จะร่วมสร้างสีสันและมิติใหม่ๆ ในการผจญภัยครั้งนี้ด้วย


รวมเหล่า Quantum Masks



Tawna เพื่อนใหม่ของ Crash และ Coco



เพชรสีขาวที่มีให้เก็บเพิ่มขึ้นต่อหนึ่งด่าน ถ้าเก็บได้ครบจะได้ชุด(skin) ของตัวละคร



กราฟิก (Nintendo switch)

ยังคงรูปแบบความเป็นอนิเมชั่น+การ์ตูนที่มีสีสันเยอะๆ รูปแบบด่านที่เปลี่ยนสีสันตามธีมของแต่ละเวิลด์ ส่วนเรื่องของเฟรมเรท ยังไม่เจอเฟรมเรทตกตลอดการเล่นบนเครื่อง Nintendo Switch ลื่นไหลดีปกติ ไม่มีภาพค้าง ไม่มีเด้งออกจากเกม 

เมื่อลองต่อ Dock ขึ้นจอ 4K ภาพสวยกว่าเดิมนิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าภาพสวยขึ้นจริงๆ หรือว่าเพราะจอใหญ่ก็เลยดูสวยเพราะรายละเอียดมันชัดขึ้นหรือเปล่า แต่จริงๆ ทางด้านกราฟิกคงไม่มีอะไรให้เขียนถึงมากนัก เอาเป็นว่าเล่นบน Nintendo Switch ที่สามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้ก็เข้ากับเกมเพลย์แบบ Crash   ดี   แต่จะหวังให้กราฟิกสู้คอนโซลอื่นๆ   คงไม่ได้อยู่แล้ว

สรุป

เกม Crash Bandicoot 4 ยังคงเป็นเกมที่ต้องใช้ความชำนาญ รวมถึงการฝึกสังเกติ เพราะเป็นเกมที่มีทางลับและไอเทมที่ซ่อนอยู่ รวมไปถึงกับดักต่างๆ ผู้เล่นจะต้องทำความคุ้นเคยกับองค์ประกอบภายในแต่ละด่านที่แตกต่างกันออกไป และอาศัยความอดทนถึงจะเล่นผ่านไปได้ 

สำหรับผู้เขียนที่เคยเล่นมาก่อนแล้วตั้งแต่ภาคแรก ก็รู้สึกว่ายังยากอยู่พอควรเลยล่ะ แต่ก็สนุกมากๆ และตื่นเต้นกับลูกเล่นใหม่ๆ ด้วยในเวลาเดียวกัน ยิ่งถ้าหากจะเก็บของให้ครบๆ หรือพิชิต Achievements  / Trophies ทุกอย่างที่มี เกมก็จะยิ่งมีความยากเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว!!

รวมๆ แล้วรู้สึกว่า ทีมสร้างเกมพยายามออกแบบการเล่นให้มีมิติที่จะเล่นสนุกได้หลากหลายมากขึ้นกว่าภาคก่อนๆ มีโหมดทางเลือกในการเล่น การสะสมของภายในเกมที่เยอะมากขึ้น กับดักที่มีรูปแบบใหม่ๆ และมีความต่อเนื่อง(ยาก)มากขึ้น มีตัวละครให้เลือกเล่นได้พร้อมกับมูฟเมนท์หรือเรื่องราวที่แตกต่างกัน การเก็บของบางด่านที่ต้องใช้ไซต์สตอรี่ร่วมด้วยถึงจะสามารถเก็บได้ครบ มีความเป็น puzzle ที่ต้องใช้ไหวพริบ และการสังเกตในการเล่น ถึงจะเป็นเกมที่เล่นค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่ แต่ภายในเกมได้มีระบบช่วยเหลือการเล่นเพิ่มขึ้นมา นั่นก็คือ..ถ้าหากผู้เล่นตายในด่านซ้ำๆ จำนวนหลายครั้ง 

จะมี Uka Uka ให้ตั้งแต่จุดเกิด (Checkpoint) และจะมี Checkpoint ให้เยอะมากขึ้นกว่าปกติ นั่นก็เพื่อรองรับผู้เล่นใหม่ๆ ให้สามารถเล่นเกมนี้ได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ทำให้รู้สึกได้ว่า ภาคนี้ตอบโจทย์ในแง่ของการสร้างความหลากหลายในการเล่นได้สำเร็จจริงๆ 

ส่วนท่านใดกำลังจะหาเกมเล่น ที่สามาถเล่นได้ยาวๆ ใช้เวลาในการเล่นค่อนข้างมาก ชอบสะสมของภายในเกมที่มีเยอะๆ ฝึกสมองใช้ไหวพริบ ฝึกการสังเกต ชอบความท้าทายชอบเกมเล่นยากๆ ตายซ้ำๆ กับจุดเดิมๆ หัวร้อนเป็นปกติ   

ผมก็ขอแนะนำ Crash Bandicoot 4: It's About Time รับรองว่าคุณจะได้สนุก และตื่นเต้นไปกับเกมนี้อย่างแน่นอน

Crash และผองเพื่อน

ความรู้สึกส่วนตัว… 

ในฐานะของคนที่เล่นมาตั้งแต่ภาคแรก 

รู้สึกหายคิดถึง เราจะยังได้เห็นอะไรเดิมๆ อยู่บ้าง เช่น ฉากแรกที่ชายหาด เหมือนกับที่ฉากแรกเริ่มใน Crash Bandicoot ภาคแรก หรือฉากที่มีมังกรก็จะนึกถึงด่านกำแพงเมืองจีนในภาค 3 รวมถึงจะฉากวิ่งหนี เราจะต้องวิ่งหนีเหมือนที่เราเคยวิ่งหนีหินกลิ้งแบบภาคก่อนๆ เราจะได้หลบกระแสน้ำวน จะได้สำรวจฉากเพื่อตามหากล่องที่ถูกซ่อนอยู่ ได้ตื่นเต้นกับการเจอเพชรสีต่างๆ ที่ดีใจเหมือนตัวเองได้เจอจริงๆ

จะได้เห็นตัวละครที่คุ้นเคยเราจะได้เจอเพื่อนเก่าอย่าง Crash ที่ขี้เล่นมีสีสันเปื่ยมไปด้วยชีวิตชีวา และน่าหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงวายร้ายอย่าง N. Cortex ที่ยังไม่ยอมแพ้ต่อความอยากจะเอาชนะเหมือนเคย รวมถึง Easter eggs ที่มีอยู่ภายในเกม และที่สำคัญยังคงรู้สึกว่าผมรักเกมนี้จริงๆ แม้ในตอนนี้ผมได้โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ความสนุกที่ได้จากเกมนี้มันโตมากขึ้นกว่าอายุที่เพิ่มขึ้นทุกๆ วันเสียอีก 

...บรรยากาศทั้งหมดภายในเกมเหล่านี้เปรียบเสมือนเพื่อนหรือครอบครัวใหญ่ครอบครัวนึงที่เรารอ หรือเคยรอการกลับมา…

ฉากแรกบนชายหาด ที่ทำให้หายคิดถึง หรือคิดถึงมากกว่าเดิม  

(แอบมี Easter eggs เกม Spyro the Dragon ด้วยแน่ะ)


...ควรค่าแก่การรอคอยมากๆๆๆๆๆๆ

 ขอบคุณมากนะที่กลับมาหาเพื่อนคนนี้อีกครั้ง 

และยินดีต้อนรับเสมอไม่ว่าจะอีกกี่ครั้งก็ตาม

7
ข้อดี
  • มีมิติในการเล่นมากขึ้น ทั้งลูกเล่นในด่าน ทั้งด้านตัวละครที่มีให้เลือกเล่นเยอะกว่าภาคก่อนๆ มีความสามารถใหม่ๆ เข้ามา มีชุดตัวละครให้เก็บ และอื่นๆ อีกมากมาย
  • เนื่องจากมีของให้เก็บเยอะมากขึ้น   ทำให้สามารถสนุกกับเกมนี้ได้ยาวๆ
  • ไม่ทิ้งตัวละครเก่าๆ อาจจะมีให้เห็นเป็นรูปแบบ Easter eggs หรือให้เราได้เล่นในรูปแบบเนื้อเรื่องหลัก และไซต์สอตรี่
  • ด่านมีความท้าทายมากขึ้น ทั้งกับดักที่หลบได้ยาก และการหาไอเทมที่ซ่อนอยู่ตามฉาก
ข้อเสีย
  • อาจจะไม่เหมาะกับนักเล่นมือใหม่เท่าไหร่นัก เนื่องจากเป็นเกมที่มีความยากในการเล่นพอสมควร
  • ไอเทมที่ซ่อนอยู่ในฉากบางชิ้นก็หายากเกินไป ต้องออกนอกเส้นทางหลัก ถ้าไม่ลองเสี่ยงกระโดดไปก็ไม่มีวันหาเจอ  ถ้าเสี่ยงออกไปแล้วไม่เจอก็ตกหลุมตาย..  
  • เสียดายที่เกมนี้ใน Nintendo switch ไม่มีระบบ  Archievements 





9
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[ Review ] Crash Bandicoot 4: It's About Time สานต่อตำนานหนูพุกอีกครั้งให้แฟนๆ หายคิดถึง
17/03/2021

Crash Bandicoot 4: It's About Time

Platform: Nintendo Switch

Genre: Action 3D, Adventure

Crash Bandicoot เป็นเกมแนว Action 3D ที่พัฒนาโดย Toys for Bob และเผยแพร่โดย Activision เป็นแฟรนไชส์เกมภาคต่อ จากแพลตฟอร์ม PlayStation 1 ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อปี 1996 - 1999 ที่มีด้วยกันถึง 3 ภาคหลัก และนอกจากนั้นยังวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอื่นๆ อีกเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ถูกนับเป็นภาคหลักแต่อย่างใด… 

จนถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นเวลากว่า 20 ปี กับการกลับมาของ Crash Bandicoot ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้นับว่าเป็นภาคต่ออย่างเป็นทางการ และเป็นที่รอคอยของแฟนๆ

เนื้อเรื่อง

การกลับมาในครั้งนี้จะเป็นเนื้อเรื่องต่อจาก Crash Bandicoot 3: Warped โดยตรง หลังจากที่จัดการวายร้ายอย่าง Dr. Neo Cortex กับ Dr. Nefarious Tropy รวมถึง Aku Aku ด้วยการจับส่งทั้งสามให้ไปอยู่ในต่างมิติ เพื่อไม่ให้ออกมาสร้างความเดือดร้อนได้อีกตลอดไป   จนกระทั้ง Aku Aku ได้ทำการเปิดประตูมิติสำเร็จ ทำให้ทั้งหมดหนีออกมาได้ 

แต่ผลกระทบจากการเปิดประตูมิตินั้น ทำให้มิติเวลารวมถึงจักรวาลเกิดความปั่นป่วน จนทำให้เกิด Multiverse หรือจักรวาลคู่ขนานขึ้นมากมาย และถึงคราวที่เหล่าวายร้ายได้ทำการวางแผนควบรวมยึดครองทั้งจักรวาล !!

ดังนั้น Crash และ Coco (น้องสาว) จะต้องร่วมมือกันออกผจญภัยอีกครั้ง เพื่อตามหาธาตุทั้ง 4 ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการหยุดยั้งแผนการร้ายในครั้งนี้ และผนวกพลังของจักรวาลเข้าด้วยกัน เพื่อให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางกลับสู่สภาวะดังเดิมอย่างที่ควรจะเป็น

ประตูมิติที่ถูกเปิด จุดเริ่มต้นของเรื่องราวในภาคนี้


เกมเพลย์/ระบบการเล่น

คราวนี้มาในส่วนของเกมเพลย์กันบ้าง 

Crash Bandicoot 4 ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของภาคก่อนๆ ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นมูฟเมนท์การบังคับตัวละคร การเปลี่ยนมุมมองเกมเพลย์ภายในด่านที่มีความหลากหลาย และยังคงความเป็นรูปแบบการผจญภัยที่มีกับดักมากมาย พร้อมกับศัตรูหลากหลายรูปแบบ ที่เราจะต้องใช้วิธีรับมือแตกต่างกันออกไป 

มีการเดินเรื่อง/ระบบการเล่นเป็นเส้นตรง มีความสลับซับซ้อนค่อนข้างน้อย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเล่นให้ผ่านได้ง่ายๆ มีระบบ Checkpoint ภายในด่าน และยังคงรูปแบบความเป็น World Part เหมือนเดิม (แต่ในภาคนี้จะเรียกว่า Dimensional map) 

พูดง่ายๆ ว่า  ใน 1 เวิลด์จะประกอบไปด้วย 5-6 ด่าน และด่านสุดท้ายก็จะมีบอสประจำเวิล์ด ถ้าเล่นผ่านก็สามารถไปเวิลด์ถัดไปได้ หรือด่านที่ผ่านไปแล้วก็สามารถกลับมาเล่นเพื่อเก็บของให้ครบได้อีก  หรือจะแข่งกับเวลาในโหมด Time Trial ที่เน้นเร็วเน้นไวก็ได้ เพื่อเก็บ Relics  ทำให้มีเหตุผลในการกลับมาเล่นด่านเหล่านี้หลายครั้ง   โดย Time Trial จะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ Sapphire, Gold, Platinum จากน้อยไปมากตามลำดับ    ขึ้นอยู่กับเวลาที่ใช้ผ่านด่านเหมือนกับในภาค 3   และยังมีด่านพิเศษที่เป็นไซต์สตอรี่ของตัวละครอีกด้วย   รับรองว่าจุใจเหล่าแฟนๆ   หนุ่ม   Crash   แน่นอน

รวมถึงยังคงมีการเก็บกล่องให้ครบตามจำนวนที่แต่ละด่านกำหนด เพื่อแลกกับเพชรสีขาวเช่นเดิม และยังมีการเก็บเพชรสีเพื่อปลดล็อค Bonus Stage หรือสถานที่ลับในด่านต่างๆ (แต่ระบบการเก็บแอปเปิ้ลเพื่อสะสมเป็นไลฟ์อัพถูกยกเลิกไปแล้ว) 

Dimensional Map


ระบบที่เสริมเข้ามาในภาคนี้ 

เริ่มเกมเลยเราสามารถเลือกโหมดที่จะเล่นได้ระหว่าง Modern Mode กับ Retro Mode โดยระบบในการเล่นทั้งสองโหมดจะแตกต่างกันออกไป ผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครที่จะเล่นได้สองตัวตั้งแต่เริ่มเกม ซึ่งก็คือ Crash ตัวเอกของเรา และ Coco น้องสาวของของเขา ทั้งสองมีรูปแบบมูฟเมนท์การเคลื่อนไหวเหมือนๆ กัน 

การเลือกเล่นตัวละครจะไม่ได้เป็นการเลือกในรูปแบบโหมด แต่เป็นการเลือกก่อนที่จะเริ่มด่าน หรือเริ่มเล่นในด่านนั้นๆ นอกจากการเลือกตัวละครเพื่อเล่นแล้ว ยังสามารถเลือกชุด (Skin) ของตัวละครได้อีกด้วย ทั้งนี้ชุด (Skin) จะต้องผ่านการปลดล็อกจากการทำภารกิจซะก่อนจึงจะเลือกมาใช้ได้

ในหนึ่งด่านจะมีการเก็บเพชรสีขาวที่เพิ่มมากขึ้น   (จากเดิมมีเพชรสีขาว 1เม็ด/1ด่าน) โดยจะมีเพชรสีขาวหกเม็ดต่อ 1 ด่าน การเก็บเพชรจะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดต่างๆ เช่น จำนวนแอปเปิ้ลที่เก็บ จำนวนครั้งที่เราตาย เพชรที่ซ่อนอยู่ตามด่าน และการเก็บกล่องในด่านให้ครบเหมือนภาคก่อนๆ

มีการเก็บไอเทม Flashback Tapes เพื่อปลดล็อคด่านพิเศษภายใน (Flashback Tapes Level) อีกที และภายใน Level จะเป็นด่านคล้ายๆ กับโบนัสสเตจที่เป็นการเก็บกล่องโดยเฉพาะ เพียงแต่จะมีความยาวและความยากกว่าพอสมควร ถ้าหากเล่นไปได้สักพักจะมีโหมดกลับซ้าย-ขวา N. Verted เข้ามาเสริมในทุกๆ ด่านอีกด้วย

ทางด้านตัวละคร จะมีตัวละครเพื่อนใหม่อย่าง Tawna ที่จะมีไทม์ไลน์เนื้อเรื่องของตนเอง เป็นเนื้อเรื่องคู่ขนานกับเนื้อเรื่องหลักของพวก Crash และธีมหลักของภาคนี้เลยก็คือพวก Quantum Masks ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือน Uka Uka ซึ่งจะมีเอกลักษณ์/สกิลเฉพาะตัวเมื่อสวมใส่ เพื่อนำความสามารถนี้ใช้ในการผ่านฉากที่มีรูปแบบเฉพาะ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกมมีความหลากหลายในการเล่นมากขึ้น รวมถึงตัวละครอื่นๆ ที่จะร่วมสร้างสีสันและมิติใหม่ๆ ในการผจญภัยครั้งนี้ด้วย


รวมเหล่า Quantum Masks



Tawna เพื่อนใหม่ของ Crash และ Coco



เพชรสีขาวที่มีให้เก็บเพิ่มขึ้นต่อหนึ่งด่าน ถ้าเก็บได้ครบจะได้ชุด(skin) ของตัวละคร



กราฟิก (Nintendo switch)

ยังคงรูปแบบความเป็นอนิเมชั่น+การ์ตูนที่มีสีสันเยอะๆ รูปแบบด่านที่เปลี่ยนสีสันตามธีมของแต่ละเวิลด์ ส่วนเรื่องของเฟรมเรท ยังไม่เจอเฟรมเรทตกตลอดการเล่นบนเครื่อง Nintendo Switch ลื่นไหลดีปกติ ไม่มีภาพค้าง ไม่มีเด้งออกจากเกม 

เมื่อลองต่อ Dock ขึ้นจอ 4K ภาพสวยกว่าเดิมนิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าภาพสวยขึ้นจริงๆ หรือว่าเพราะจอใหญ่ก็เลยดูสวยเพราะรายละเอียดมันชัดขึ้นหรือเปล่า แต่จริงๆ ทางด้านกราฟิกคงไม่มีอะไรให้เขียนถึงมากนัก เอาเป็นว่าเล่นบน Nintendo Switch ที่สามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้ก็เข้ากับเกมเพลย์แบบ Crash   ดี   แต่จะหวังให้กราฟิกสู้คอนโซลอื่นๆ   คงไม่ได้อยู่แล้ว

สรุป

เกม Crash Bandicoot 4 ยังคงเป็นเกมที่ต้องใช้ความชำนาญ รวมถึงการฝึกสังเกติ เพราะเป็นเกมที่มีทางลับและไอเทมที่ซ่อนอยู่ รวมไปถึงกับดักต่างๆ ผู้เล่นจะต้องทำความคุ้นเคยกับองค์ประกอบภายในแต่ละด่านที่แตกต่างกันออกไป และอาศัยความอดทนถึงจะเล่นผ่านไปได้ 

สำหรับผู้เขียนที่เคยเล่นมาก่อนแล้วตั้งแต่ภาคแรก ก็รู้สึกว่ายังยากอยู่พอควรเลยล่ะ แต่ก็สนุกมากๆ และตื่นเต้นกับลูกเล่นใหม่ๆ ด้วยในเวลาเดียวกัน ยิ่งถ้าหากจะเก็บของให้ครบๆ หรือพิชิต Achievements  / Trophies ทุกอย่างที่มี เกมก็จะยิ่งมีความยากเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว!!

รวมๆ แล้วรู้สึกว่า ทีมสร้างเกมพยายามออกแบบการเล่นให้มีมิติที่จะเล่นสนุกได้หลากหลายมากขึ้นกว่าภาคก่อนๆ มีโหมดทางเลือกในการเล่น การสะสมของภายในเกมที่เยอะมากขึ้น กับดักที่มีรูปแบบใหม่ๆ และมีความต่อเนื่อง(ยาก)มากขึ้น มีตัวละครให้เลือกเล่นได้พร้อมกับมูฟเมนท์หรือเรื่องราวที่แตกต่างกัน การเก็บของบางด่านที่ต้องใช้ไซต์สตอรี่ร่วมด้วยถึงจะสามารถเก็บได้ครบ มีความเป็น puzzle ที่ต้องใช้ไหวพริบ และการสังเกตในการเล่น ถึงจะเป็นเกมที่เล่นค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่ แต่ภายในเกมได้มีระบบช่วยเหลือการเล่นเพิ่มขึ้นมา นั่นก็คือ..ถ้าหากผู้เล่นตายในด่านซ้ำๆ จำนวนหลายครั้ง 

จะมี Uka Uka ให้ตั้งแต่จุดเกิด (Checkpoint) และจะมี Checkpoint ให้เยอะมากขึ้นกว่าปกติ นั่นก็เพื่อรองรับผู้เล่นใหม่ๆ ให้สามารถเล่นเกมนี้ได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ทำให้รู้สึกได้ว่า ภาคนี้ตอบโจทย์ในแง่ของการสร้างความหลากหลายในการเล่นได้สำเร็จจริงๆ 

ส่วนท่านใดกำลังจะหาเกมเล่น ที่สามาถเล่นได้ยาวๆ ใช้เวลาในการเล่นค่อนข้างมาก ชอบสะสมของภายในเกมที่มีเยอะๆ ฝึกสมองใช้ไหวพริบ ฝึกการสังเกต ชอบความท้าทายชอบเกมเล่นยากๆ ตายซ้ำๆ กับจุดเดิมๆ หัวร้อนเป็นปกติ   

ผมก็ขอแนะนำ Crash Bandicoot 4: It's About Time รับรองว่าคุณจะได้สนุก และตื่นเต้นไปกับเกมนี้อย่างแน่นอน

Crash และผองเพื่อน

ความรู้สึกส่วนตัว… 

ในฐานะของคนที่เล่นมาตั้งแต่ภาคแรก 

รู้สึกหายคิดถึง เราจะยังได้เห็นอะไรเดิมๆ อยู่บ้าง เช่น ฉากแรกที่ชายหาด เหมือนกับที่ฉากแรกเริ่มใน Crash Bandicoot ภาคแรก หรือฉากที่มีมังกรก็จะนึกถึงด่านกำแพงเมืองจีนในภาค 3 รวมถึงจะฉากวิ่งหนี เราจะต้องวิ่งหนีเหมือนที่เราเคยวิ่งหนีหินกลิ้งแบบภาคก่อนๆ เราจะได้หลบกระแสน้ำวน จะได้สำรวจฉากเพื่อตามหากล่องที่ถูกซ่อนอยู่ ได้ตื่นเต้นกับการเจอเพชรสีต่างๆ ที่ดีใจเหมือนตัวเองได้เจอจริงๆ

จะได้เห็นตัวละครที่คุ้นเคยเราจะได้เจอเพื่อนเก่าอย่าง Crash ที่ขี้เล่นมีสีสันเปื่ยมไปด้วยชีวิตชีวา และน่าหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงวายร้ายอย่าง N. Cortex ที่ยังไม่ยอมแพ้ต่อความอยากจะเอาชนะเหมือนเคย รวมถึง Easter eggs ที่มีอยู่ภายในเกม และที่สำคัญยังคงรู้สึกว่าผมรักเกมนี้จริงๆ แม้ในตอนนี้ผมได้โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ความสนุกที่ได้จากเกมนี้มันโตมากขึ้นกว่าอายุที่เพิ่มขึ้นทุกๆ วันเสียอีก 

...บรรยากาศทั้งหมดภายในเกมเหล่านี้เปรียบเสมือนเพื่อนหรือครอบครัวใหญ่ครอบครัวนึงที่เรารอ หรือเคยรอการกลับมา…

ฉากแรกบนชายหาด ที่ทำให้หายคิดถึง หรือคิดถึงมากกว่าเดิม  

(แอบมี Easter eggs เกม Spyro the Dragon ด้วยแน่ะ)


...ควรค่าแก่การรอคอยมากๆๆๆๆๆๆ

 ขอบคุณมากนะที่กลับมาหาเพื่อนคนนี้อีกครั้ง 

และยินดีต้อนรับเสมอไม่ว่าจะอีกกี่ครั้งก็ตาม


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header