เป็นภาคที่แฟนๆ เฝ้ารอคอยเป็นอย่างมากสำหรับ Battlefield 2042 ที่ในภาคนี้ทางผู้พัฒนาได้ทำการนำเราเข้ามาสู่โลกสงครามในยุคปัจจุบันกึ่งโลกอนาคต หลังจากที่ให้เราได้เล่นในสงครามอดีตมาตั้ง 2 ภาค เราจะได้กลับมาจับปืน จับยานพาหนะในยุคปัจจุบันอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเรา GameFever TH เองได้โอกาสได้เข้าไปทดลองเล่นเกมนี้ในช่วงทดสอบ Open Beta มา และจะมาพรีวิวสั้นๆ ว่าตัวเกมมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเกมภาคก่อนหน้าบ้าง แต่ต้องขอเกริ่นก่อนว่าในช่วงทดสอบทางเราเองได้มีโอกาสเล่นเพียงแค่โหมด Conquest ด่านเดียวเท่านั้น
ยังคง Concept ของเกม Battlefield เช่นเดิมที่ตัวเกมยังคงมีคลาสให้เราเลือกจำนวน 4 คลาสด้วยกัน ซึ่งประกอบไปด้วย
Assualt - สายปะทะจะมีความสามารถในการใช้ Grapling Hook เพื่อเกาะขึ้นที่สูงได้ สามารถวิ่งและเล็งได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงใช้ Zipline ได้
Engineer - สามารถตั้งป้อมปืนได้ และป้อมปืนที่อยู่ใกล้ๆ จะได้รับประสิทธิภาพ
Recon - หน่วยซุ่มยิงที่สามารถเรียกโดรนออกมา Mark จุดศัตรูได้ หรือจะมี Movement Sensor ที่จะเตือนถ้าหากศัตรูอยู่ใกล้ๆ
Support - หน่วยแพทย์ของทีม มีปืนที่สามารถฮิลได้ และเวลาชุปเพื่อนเลือดจะเต็ม
โดยแต่ละคลาสจะทำหน้าที่และมีประโยชน์แตกต่างกันไปซึ่งมันก็คล้ายๆ กับเกมภาคก่อนๆ ที่เคยมี แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือความสามารถต่างๆ ของตัวละครที่บุกได้หลากหลายขึ้น อย่างเช่น Assualt ที่มีสกิลดึงสลิงขึ้นไปบนที่สูง หรือ Recon สามารถใช้โดรนค้นหาศัตรูที่แอบได้ก่อน หรือจะเป็น Support ที่สามารถยิงปืนเพิ่มเลือดได้ในระยะไกล และความแตกต่างระหว่างเกมนี้ที่เห็นได้ชัดคงจะเป็นการที่ทุกคลาสสามารถเลือกเล่นปืนไหนก็ได้ (แต่บางคลาสอาจจะเลือกบางปืนไม่ได้)
เกมยังเน้นทีมเวิร์ค แต่ก็แตกต่างกว่าภาคเก่า
ซึ่งจากที่ได้ลองเล่นมาตัวเกมค่อนข้างให้อารมณ์คล้ายๆ กับ Battlefield 4 ที่เพิ่มความสามารถของตัวละครเข้าไป และอย่างที่ทราบว่าเกม Battlefield เป็นซีรีส์ที่ต้องอาศัย Team Work ของเพื่อนใน Squad เป็นอย่างมาก ซึ่งยกตัวอย่างจากเกม Battlefield V ที่ตัวเกมดีไซน์ให้เราควรมักจะไปเป็นกลุ่มก้อนกระจุกกันไว้ เพราะเราต้องช่วยกันจ่ายยา จ่ายกระสุนให้ (อาจจะมีหน่วยสไนเปอร์ที่ออกห่างได้ประมาณหนึ่ง) ส่วนพลปืนกลก็ไม่ได้มีสกิลที่โลดโผนมากนักนอกจากปืนแรง
แต่ Battlefield 2042 การเดินห่างๆ และคุมโซนกันไว้น่าจะเป็นตัวเลือกที่อาจจะเหมาะด้วยเช่นกัน เพราะทุกตัวละครมีความสามารถที่เอื้อและโลดโผนกว่าภาคก่อนๆ ที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่น Recon มีความสามารถในการค้นหาศัตรู ซึ่งเราอาจจะสามารถหาตำแหน่งให้เพื่อนได้ Assualt เป็นคนเดียวที่สามารถกระโดดขึ้นที่สูงได้ทำให้การเข้าทำนั้นหลากหลายขึ้น Engineer มีปืนกลที่เล็งและยิงในระยะไกลได้ดี คอยคุมโซนช่วยเหลือเพื่อนแนวหลังได้ หรือจะเป็น Support ก็มีปืนยิงเพิ่มเลือดระยะไกลได้ กลางหรือใกล้ได้ดี
ปรับแต่งปืนได้แบบเรียลไทม์
หนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของเกมนี้คือการที่เราสามารถปรับแต่งปืนได้ตลอดเวลาในระหว่างอยู่บนสงครามก็เปลี่ยนได้ ไม่จำเป็นต้องเก็บเลเวลเพื่อปลดล็อคอีกต่อไป (แต่ระบบปืนยังต้องรอให้เลเวลอัพเพื่อรับปืนใหม่เช่นเดิม) ทำให้เราสามารถปรับแต่งปืนแบบเรียลไทม์เพื่อใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ได้ อย่างเช่นเวลาศัตรูอยู่ไกลเราก็อาจจะสามารถเปลี่ยน Scope ไกลมาใช้ได้ รวมถึงการปรับแต่งก็ยังมีบอกด้วยว่าประสิทธิภาพเพิ่มและลดตรงไหน
ระบบ A.I. ที่ทำให้ห้องเต็มตลอดเวลา
อย่างที่ทราบว่าถ้าใครเล่นเกม Battlefield 2042 บนเครื่อง PC, PS4 หรือ Xbox Series X/S ภายในห้องจะรองรับผู้เล่นมากถึง 128 คนเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่ามันมีโอกาสที่คนในห้องจะไม่ครบหรือขาดไปบ้าง ตัวเกมเลยนำระบบ A.I. ใส่เข้ามาแทรกให้กับเราภายในห้อง (คล้ายๆ กับการมีบอทสมัยเกม Battlefield 2) ซึ่งจากที่ได้ลองมา ถึงแม้ว่าโดยรวมแล้วตัวบอทยังมีความเอ๋อๆ และดูไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง อย่างเช่นอยู่ดีๆ ก็เดินไปที่โล่งกลางแจ้งให้เรายิงฟรีๆ แต่ตัวบอทค่อนข้างยิงแม่นพอสมควร ถ้าเราเดินไม่ระวังเราอาจจะโดนบอทลุมยิงตายแบบง่ายๆ ก็ได้ และนี่มันก็เป็นข้อดีสำหรับคนที่เล่นไม่เก่งเช่นกัน เพราะเรายังได้มีโอกาสยิงบอทที่เดินผ่านไปผ่านมาได้
ความรู้สึกหลังได้ลองเล่น
จากที่ได้ลองเล่นมา ตัวเกมมีความคล้ายคลึงกับเกม Battlefield 4 อยู่พอสมควรในเรื่องของอาวุธปืนต่างๆ ที่เหมือนกันมาก แต่มันก็มีการเพิ่มเติมมาด้วยความสามารถของคลาสต่างๆ ที่หลากหลายและโลดโผนมากขึ้น เชื่อว่าท่านจะต้องพบเจอกับเกมเพลย์สไตล์ใหม่ๆ หรืออะไรแปลกๆ ภายในนั้นอีกเยอะแยะแน่นอน
ส่วนเรื่องสังเกตุข้อเดียวก็คือ ถ้าหากใครคิดอยากที่จะหากลื่นอายความเป็น Sci-fi โลกอนาคต ตัวเกม Battlefield 2042 มันก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ท่านคาดหวังไว้เท่าไร ตัวเกมยังมีกลิ่นอายความเป็นโลกปัจจุบันที่อาจจะมีเทคโนโลยีทันสมัยกว่าความเป็นจริงประมาณหนึ่งเท่านั้น แต่โดยรวมแล้วตัวเกมก็ยังสนุกและแฟนๆ ก็น่าจะกลับมาชอบอีกครั้ง
เป็นภาคที่แฟนๆ เฝ้ารอคอยเป็นอย่างมากสำหรับ Battlefield 2042 ที่ในภาคนี้ทางผู้พัฒนาได้ทำการนำเราเข้ามาสู่โลกสงครามในยุคปัจจุบันกึ่งโลกอนาคต หลังจากที่ให้เราได้เล่นในสงครามอดีตมาตั้ง 2 ภาค เราจะได้กลับมาจับปืน จับยานพาหนะในยุคปัจจุบันอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเรา GameFever TH เองได้โอกาสได้เข้าไปทดลองเล่นเกมนี้ในช่วงทดสอบ Open Beta มา และจะมาพรีวิวสั้นๆ ว่าตัวเกมมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเกมภาคก่อนหน้าบ้าง แต่ต้องขอเกริ่นก่อนว่าในช่วงทดสอบทางเราเองได้มีโอกาสเล่นเพียงแค่โหมด Conquest ด่านเดียวเท่านั้น
ยังคง Concept ของเกม Battlefield เช่นเดิมที่ตัวเกมยังคงมีคลาสให้เราเลือกจำนวน 4 คลาสด้วยกัน ซึ่งประกอบไปด้วย
Assualt - สายปะทะจะมีความสามารถในการใช้ Grapling Hook เพื่อเกาะขึ้นที่สูงได้ สามารถวิ่งและเล็งได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงใช้ Zipline ได้
Engineer - สามารถตั้งป้อมปืนได้ และป้อมปืนที่อยู่ใกล้ๆ จะได้รับประสิทธิภาพ
Recon - หน่วยซุ่มยิงที่สามารถเรียกโดรนออกมา Mark จุดศัตรูได้ หรือจะมี Movement Sensor ที่จะเตือนถ้าหากศัตรูอยู่ใกล้ๆ
Support - หน่วยแพทย์ของทีม มีปืนที่สามารถฮิลได้ และเวลาชุปเพื่อนเลือดจะเต็ม
โดยแต่ละคลาสจะทำหน้าที่และมีประโยชน์แตกต่างกันไปซึ่งมันก็คล้ายๆ กับเกมภาคก่อนๆ ที่เคยมี แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือความสามารถต่างๆ ของตัวละครที่บุกได้หลากหลายขึ้น อย่างเช่น Assualt ที่มีสกิลดึงสลิงขึ้นไปบนที่สูง หรือ Recon สามารถใช้โดรนค้นหาศัตรูที่แอบได้ก่อน หรือจะเป็น Support ที่สามารถยิงปืนเพิ่มเลือดได้ในระยะไกล และความแตกต่างระหว่างเกมนี้ที่เห็นได้ชัดคงจะเป็นการที่ทุกคลาสสามารถเลือกเล่นปืนไหนก็ได้ (แต่บางคลาสอาจจะเลือกบางปืนไม่ได้)
เกมยังเน้นทีมเวิร์ค แต่ก็แตกต่างกว่าภาคเก่า
ซึ่งจากที่ได้ลองเล่นมาตัวเกมค่อนข้างให้อารมณ์คล้ายๆ กับ Battlefield 4 ที่เพิ่มความสามารถของตัวละครเข้าไป และอย่างที่ทราบว่าเกม Battlefield เป็นซีรีส์ที่ต้องอาศัย Team Work ของเพื่อนใน Squad เป็นอย่างมาก ซึ่งยกตัวอย่างจากเกม Battlefield V ที่ตัวเกมดีไซน์ให้เราควรมักจะไปเป็นกลุ่มก้อนกระจุกกันไว้ เพราะเราต้องช่วยกันจ่ายยา จ่ายกระสุนให้ (อาจจะมีหน่วยสไนเปอร์ที่ออกห่างได้ประมาณหนึ่ง) ส่วนพลปืนกลก็ไม่ได้มีสกิลที่โลดโผนมากนักนอกจากปืนแรง
แต่ Battlefield 2042 การเดินห่างๆ และคุมโซนกันไว้น่าจะเป็นตัวเลือกที่อาจจะเหมาะด้วยเช่นกัน เพราะทุกตัวละครมีความสามารถที่เอื้อและโลดโผนกว่าภาคก่อนๆ ที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่น Recon มีความสามารถในการค้นหาศัตรู ซึ่งเราอาจจะสามารถหาตำแหน่งให้เพื่อนได้ Assualt เป็นคนเดียวที่สามารถกระโดดขึ้นที่สูงได้ทำให้การเข้าทำนั้นหลากหลายขึ้น Engineer มีปืนกลที่เล็งและยิงในระยะไกลได้ดี คอยคุมโซนช่วยเหลือเพื่อนแนวหลังได้ หรือจะเป็น Support ก็มีปืนยิงเพิ่มเลือดระยะไกลได้ กลางหรือใกล้ได้ดี
ปรับแต่งปืนได้แบบเรียลไทม์
หนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของเกมนี้คือการที่เราสามารถปรับแต่งปืนได้ตลอดเวลาในระหว่างอยู่บนสงครามก็เปลี่ยนได้ ไม่จำเป็นต้องเก็บเลเวลเพื่อปลดล็อคอีกต่อไป (แต่ระบบปืนยังต้องรอให้เลเวลอัพเพื่อรับปืนใหม่เช่นเดิม) ทำให้เราสามารถปรับแต่งปืนแบบเรียลไทม์เพื่อใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ได้ อย่างเช่นเวลาศัตรูอยู่ไกลเราก็อาจจะสามารถเปลี่ยน Scope ไกลมาใช้ได้ รวมถึงการปรับแต่งก็ยังมีบอกด้วยว่าประสิทธิภาพเพิ่มและลดตรงไหน
ระบบ A.I. ที่ทำให้ห้องเต็มตลอดเวลา
อย่างที่ทราบว่าถ้าใครเล่นเกม Battlefield 2042 บนเครื่อง PC, PS4 หรือ Xbox Series X/S ภายในห้องจะรองรับผู้เล่นมากถึง 128 คนเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่ามันมีโอกาสที่คนในห้องจะไม่ครบหรือขาดไปบ้าง ตัวเกมเลยนำระบบ A.I. ใส่เข้ามาแทรกให้กับเราภายในห้อง (คล้ายๆ กับการมีบอทสมัยเกม Battlefield 2) ซึ่งจากที่ได้ลองมา ถึงแม้ว่าโดยรวมแล้วตัวบอทยังมีความเอ๋อๆ และดูไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง อย่างเช่นอยู่ดีๆ ก็เดินไปที่โล่งกลางแจ้งให้เรายิงฟรีๆ แต่ตัวบอทค่อนข้างยิงแม่นพอสมควร ถ้าเราเดินไม่ระวังเราอาจจะโดนบอทลุมยิงตายแบบง่ายๆ ก็ได้ และนี่มันก็เป็นข้อดีสำหรับคนที่เล่นไม่เก่งเช่นกัน เพราะเรายังได้มีโอกาสยิงบอทที่เดินผ่านไปผ่านมาได้
ความรู้สึกหลังได้ลองเล่น
จากที่ได้ลองเล่นมา ตัวเกมมีความคล้ายคลึงกับเกม Battlefield 4 อยู่พอสมควรในเรื่องของอาวุธปืนต่างๆ ที่เหมือนกันมาก แต่มันก็มีการเพิ่มเติมมาด้วยความสามารถของคลาสต่างๆ ที่หลากหลายและโลดโผนมากขึ้น เชื่อว่าท่านจะต้องพบเจอกับเกมเพลย์สไตล์ใหม่ๆ หรืออะไรแปลกๆ ภายในนั้นอีกเยอะแยะแน่นอน
ส่วนเรื่องสังเกตุข้อเดียวก็คือ ถ้าหากใครคิดอยากที่จะหากลื่นอายความเป็น Sci-fi โลกอนาคต ตัวเกม Battlefield 2042 มันก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ท่านคาดหวังไว้เท่าไร ตัวเกมยังมีกลิ่นอายความเป็นโลกปัจจุบันที่อาจจะมีเทคโนโลยีทันสมัยกว่าความเป็นจริงประมาณหนึ่งเท่านั้น แต่โดยรวมแล้วตัวเกมก็ยังสนุกและแฟนๆ ก็น่าจะกลับมาชอบอีกครั้ง