ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Silent Hill เป็นอีกหนึ่งเกมที่แฟน ๆ อยากจะเห็นภาคต่อกันมากที่สุด ทว่าทางผู้ถือครองลิขสิทธิ์อย่าง Konami นั้น กลับไม่มีทีท่าว่าจะชุบชีวิตเกมนี้ขึ้นมาใหม่เสียที
ร้อนจนถึงแฟนเดนตายบางกลุ่มที่อยากจะลองสัมผัสตัวเกมอีกครั้งบนเทคโนโลยีสมัยใหม่ ต้องพัฒนาเกม Silent Hill ฉบับ Remake เองเสียจนได้
โดยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ช่อง Youtube ที่ใช้ชื่อว่า Codeless Games ได้ทำการอัปโหลดวิดีโอความยาวกว่า 10 นาที โชว์ให้เห็นถึงภาพฟุตเทจเกมเพลย์จากภายในเกม Silent Hill Remake ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้ Unreal Engine 5
ซึ่งฟุตเทจที่อัปโหลดมานั้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงฉากในด่านของโรงเรียนประถม Midwich หนึ่งในฉากที่ตราตรึงใจของใครหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน
สิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจก็คือ ภาพกราฟิกที่ดูสวยงามและสมจริงเป็นอย่างมาก ด้วยฝีมือของ Unreal Engine 5 ทำให้ตัวเกม Remake จาก Fan Made ตัวนี้ สามารถถ่ายทอดบรรยากาศความสยอง และความน่าขนลุกออกมาได้เป็นอย่างดี
ช่างน่าเสียดายที่ทางผู้พัฒนายังไม่ได้ประกาศถึงวันที่จะเปิดให้ดาวน์โหลดกันอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่สนใจก็ไปกดติดตามช่องทางโซเชียลมีเดียของทีมงานกันเอาไว้ได้เลย (Twitter, Discord)
แหล่งข้อมูล: thegamer
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Silent Hill เป็นอีกหนึ่งเกมที่แฟน ๆ อยากจะเห็นภาคต่อกันมากที่สุด ทว่าทางผู้ถือครองลิขสิทธิ์อย่าง Konami นั้น กลับไม่มีทีท่าว่าจะชุบชีวิตเกมนี้ขึ้นมาใหม่เสียที
ร้อนจนถึงแฟนเดนตายบางกลุ่มที่อยากจะลองสัมผัสตัวเกมอีกครั้งบนเทคโนโลยีสมัยใหม่ ต้องพัฒนาเกม Silent Hill ฉบับ Remake เองเสียจนได้
โดยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ช่อง Youtube ที่ใช้ชื่อว่า Codeless Games ได้ทำการอัปโหลดวิดีโอความยาวกว่า 10 นาที โชว์ให้เห็นถึงภาพฟุตเทจเกมเพลย์จากภายในเกม Silent Hill Remake ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้ Unreal Engine 5
ซึ่งฟุตเทจที่อัปโหลดมานั้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงฉากในด่านของโรงเรียนประถม Midwich หนึ่งในฉากที่ตราตรึงใจของใครหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน
สิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจก็คือ ภาพกราฟิกที่ดูสวยงามและสมจริงเป็นอย่างมาก ด้วยฝีมือของ Unreal Engine 5 ทำให้ตัวเกม Remake จาก Fan Made ตัวนี้ สามารถถ่ายทอดบรรยากาศความสยอง และความน่าขนลุกออกมาได้เป็นอย่างดี
ช่างน่าเสียดายที่ทางผู้พัฒนายังไม่ได้ประกาศถึงวันที่จะเปิดให้ดาวน์โหลดกันอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่สนใจก็ไปกดติดตามช่องทางโซเชียลมีเดียของทีมงานกันเอาไว้ได้เลย (Twitter, Discord)
แหล่งข้อมูล: thegamer