IDLE Game คือเกมที่มีการพัฒนาคอนเทนต์ภายในเกมไปเรื่อยๆ โดยที่ผู้เล่นไม่ต้องปฏิสัมพันธ์กับระบบ พูดง่ายๆก็คือ เกมมันเล่นด้วยตัวของมันเอง! มีที่มาจากคำว่า ‘idle’ ซึ่งมีความหมายว่าขี้เกียจหรือไม่ทำอะไรเลย ส่วนหน้าที่ของผู้เล่นเกมประเภทนี้มีเพียงการเฝ้ามององค์ประกอบต่างๆภายในเกมที่ก้าวหน้าขึ้น อาจมีการคลิ๊กบ้างเล็กน้อยเป็นการเก็บ reward หรืออัปเกรดระบบบางอย่างเพื่อให้ผลตอบแทนสูงยิ่งขึ้น จากนั้นก็รอ เสร็จแล้วก็คลิ๊กเพื่อป้อนคำสั่งเดิมวนไปเรื่อยๆ นั่นจึงทำให้บางครั้งเราก็นิยามเกมแนวนี้ว่า “Clicker Game” 

เกมที่ถูกนิยามว่าเป็นเกม IDLE เกมแรกของโลกคือ Progress Quest ในปี 2002 ซึ่งเป็นเกมล้อเลียนแนว MMORPG ที่ให้เราสร้างตัวละครขึ้นมาแล้ว จากนั้นเกมมันก็จะโจมตีอัตโนมัติ ต่อมาก็มีเกม Kongregate Chat (ปี 2007) ที่เกมจะเล่นไปเองขณะที่ผู้เล่นก็ไปพูดคุยกันในช่องแชท

เนื่องจากในยุคแรก เกม IDLE นั้นถูกสร้างมาเพื่อเป็นเกมล้อเลียนพวกเกมดังเป็นหลัก จึงไม่น่าแปลกที่จะได้รับความสนใจจากผู้เล่นทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้าไปเล่นขำ ๆ เอาความบันเทิงเท่านั้นแหละ โดยเกมที่ถือว่าทำให้เกม IDLE ขึ้นมาอยู่บนกระแสหลักได้ ก็คือ Cow Clicker บน Facebook (ปี 2010) และอีกเกมที่ถือเป็นต้นแบบของ IDLE Game ยุคปัจจุบันเลยก็คือ AdVenture Capitalist (ปี 2015) เกม browser ที่นำการรับผลตอบแทนขณะออฟไลน์เข้ามาใช้ ซึ่งตัวเกมจะคำนวณระบบเกมตามระยะเวลาที่เราปิดเกมไป และเมื่อกลับมาอีกครั้งก็จะได้รับผลตอบแทนตามสมควรนั่นเอง

ส่วนเหตุผลที่ว่า ทำไมผู้เล่นหลายคนที่หลงใหลโลกของเกม IDLE กันนักหนา ก็มีความเป็นไปได้หลายอย่างเลยล่ะ เช่น...

- ภูมิใจที่ได้เห็นผลตอบแทนทุกครั้งที่กลับเข้าเกม

- การได้เพิ่มประสิทธิภาพขององค์ประกอบในเกมอย่างเต็มที่ก่อนจะปิดเกม

- การได้เห็นความคืบหน้าอย่างชัดเจน

- ความต้องการปฏิสัมพันธ์จากผู้เล่นที่น้อยมาก ๆ

ซึ่งรวม ๆ แล้ว เหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกเกมแนวนี้ ก็เพราะไม่ต้องเสียแรงเสียเวลาให้กับการเล่นมากเท่ากับเกมแนวอื่น แถมผลลัพธ์ยังปรากฏออกมาให้ชื่นใจทุกครั้งที่เข้าเกม และยังมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเล่นแต่ละรอบของวันด้วย ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ของเกมเหล่านี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องชอบเล่นเกมหรือเป็นเกมเมอร์เต็มตัว

แน่นอนว่าด้วยความ “ง่าย” ของวิธีการเล่น จึงทำให้เกมแนวนี้ถูกผลิตออกมาเยอะมาก ๆ หลายเกมแทบจะเรียกได้ว่า copy ระบบมา แค่เปลี่ยน graphic เท่านั้นเอง ถึงแม้จะดูจำเจไปหน่อย แต่ไม่น่าเชื่อว่าคอนเซปต์กราฟฟิคที่เปลี่ยนไป ก็ทำให้เกมมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ!

ตัวอย่างที่เข้าข่าย Clicker Game ที่เพิ่งมีกระแสไปเมื่อไม่นานนี้ก็คือ Pop Cat ที่ให้ผู้เล่นมาคลิ๊กน้องแมวให้อ้าปากแบบชิงแชมป์โลกกันเลยทีเดียว แม้แต่เกมชื่อดังอย่าง Ragnarok ยังสร้างเกม IDLE ของตัวเองอย่าง Ragnarok: Poring Merge ด้วย หรือที่แฟนเกมมือถือคุ้นเคยก็ต้องยกให้เกมตระกูล Tycoon เขาล่ะ

สำหรับใครที่สนใจ แต่ไม่รู้ว่าจะเล่นเกมไหนดี ส่วนตัวผู้เขียนเองก็มีเกม IDLE คุณภาพ ที่ขอรับรองเลยว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอน ได้แก่...

Cookie Clicker - เกม idle ยุคบุกเบิก ที่เราต้องคลิ๊กคุกกี้ชิ้นยักษ์เพื่อให้แตกออกเป็นคุกกี้ชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งจำนวนคุกกี้ยิ่งมาก เราก็สามารถนำคุกกี้จำนวนนั้นไปซื้อตัวช่วยอย่าง Curser, Grandma หรือ Farm เพื่อช่วยให้จำนวนการคลิ๊กของเราได้จำนวนมากขึ้น ที่สำคัญคือตอนนี้ตัวเกมสามารถเล่นได้ทั้งบนมือถือและโหลดผ่าน Steam ได้ด้วยนะ

My Café Recipes & Stories - เกม idle จำลองการสร้างคาเฟ่บนมือถือ ที่เป็นมากกว่า idle simulator เพราะเมื่อเราได้รับผลตอบแทนไปถึงจำนวนหนึ่ง เราสามารถพูดคุยกับลูกค้าเพื่อทำความรู้จักกับเรื่องราวของเมืองนี้ให้มากขึ้นได้ด้วย จึงทำให้รู้สึกว่าเราไม่เพียงแค่เฝ้ามองลูกค้าเดินเข้าออก แต่เรายังสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคอนเทนต์เกมราวกับเกม RPG ด้วย

Forager - เป็นอีกเกมที่เนรมิตทุกอย่างได้ด้วยการคลิ๊ก! ส่วนใหญ่แล้วตัวเกมต้องการให้เราสะสมทรัพยากรและสร้างเครื่องมือต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสำรวจโลกกว้าง เมื่อเลเวลอัพก็จะได้ skill point มาให้เพิ่มทักษะที่มีมากกว่า 60 แบบ พร้อมมินิเกมอีกหลากหลาย นับว่ามีอะไรให้ทำเยอะแบบไม่รู้เบื่อเลยล่ะ

Village City – เกมสร้างเมืองที่เราต้องจัดวางระบบให้สมดุล ทั้งจำนวนประชากร งานที่รองรับผู้คน รวมไปถึงเงินตอบแทนที่จะนำไปอัปเกรดหรือซื้อที่ดินเพิ่ม เป็นเกมที่เล่นง่ายแต่ต้องอาศัยการวางแผนอยู่พอตัวเลย เพราะสิ่งหนึ่งที่เราต้องคอยระวังคือค่าความสุขของคนในเมือง ทำให้ทุกครั้งที่เข้าเกมเราจะรู้สึกสนุกกับการปรับแต่งเมืองอย่างเต็มที่นี่แหละ

Tabi Kaeru - ปิดท้ายด้วยเกมน้องกบหนีเที่ยวในตำนาน ที่เรามีหน้าที่จัดกระเป๋าให้น้อง ก่อนที่เจ้ากบตัวดีจะออกไปท่องเที่ยว ซึ่งช่วงนี้เราก็สามารถเตรียมของไว้บนโต๊ะเผื่อน้องกลับมาหยิบก่อนออกเดินทางอีกครั้งหรือจะปิดเกมไปเลยก็ยังได้ ซึ่งความน่ารักและภาพที่ผ่อนคลายนี้จึงทำให้เกมนี้เคยเป็นกระแสอย่างมาก และยังเป็นเกมที่ทำให้เราได้เก็บภาพสถานที่สวย ๆ จากทั่วโลกผ่านมุมมองของเจ้ากบอีกด้วย