กลับมากันอีกครั้งกับ Agent 47 ในความทรงจำของแฟนๆจากซีรี่ย์ Hitman ซึ่งวันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำอีกเกมหนึ่งในซีรี่ย์ที่กลับมาในรูปแบบไตรภาคให้ทุกคนได้รู้จักกัน โดยในไตรภาคนี้จะเป็นภาคที่ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ภาค Absolution ในปี 2012 ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าทั้ง 3 ภาคล่าสุดที่ปล่อยมาก็จะให้ความรู้สึกที่ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากในแต่ละภาค
เรื่องราวสู่การจ้างวานในภาคนี้
ในไตรภาคนี้เราก็จะได้รับบทเป็นพี่โล้นซ่า Agent 47 อีกเช่นเคย โดยที่เราก็จะได้เห็นเนื้อเรื่องที่เชื่อมโยงกันในแต่ละภาค โดยที่จะเป็นภารกิจต่างๆ ก็จะถูกแบ่งออกเป็นสถานที่ต่างๆที่แตกต่างกันไปในแต่ละภารกิจ ซึ่งทั้ง 3 ภาคก็จะเป็นลักษณะที่คล้ายๆ กันไม่ได้แตกต่างมากนัก โดยที่เมื่อเราทำภารกิจไปเรื่อยๆ เราก็จะเริ่มรู้สึกได้ว่าการที่เราถูกส่งไปทำภารกิจในแต่ละที่นั้น มันไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเหมือนว่าผู้จ้างวานนั้นจงใจให้เรากำลังเดินไปตามหมากที่เขาวางเอาไว้ โดยที่บทสรุปของเรื่องก็จะเกิดขึ้นในภาค 3 เรียกว่าได้ติดตามกันเป็นเหมือนกับการนั่งดูซีรี่ย์ยาวๆ สักเรื่องนึงเลยล่ะ
มาในรูปแบบเกือบจะเป็น Open World
สิ่งแรกที่แตกต่างไปจากภาคเก่า คือเราจะสามารถสนุกไปกับความอิสระของเกมนี้ได้อย่างเต็มที่ เพราะว่าเราจะสามารถเดินไปไหนมาไหนเพื่อสำรวจภายในฉากของด่านได้ เพื่อวางแผนว่าจะต้องทำอะไรต่อไป เป็นขั้นตอนอย่างไรบ้าง เช่น จะดึงความสนใจของยามก่อนแล้วค่อยเข้าไปลงมือ หรือดูว่าสามารถใช้วิธีไหนในการจัดการกับเป้าหมายได้บ้าง และวิธีไหนจะเหมาะสมมากที่สุด
วางกลยุทธ์ก่อนเริ่มงานเพื่อลดความเสี่ยง
ถ้าหากว่าเราเล่นจบภารกิจไปแล้วรอบนึง หากจะกลับไปเล่นด่านเดินอีกครั้งในช่วงก่อนที่จะเข้าสู่ในภารกิจ เราจะสามารถวางแผนก่อนที่จะเริ่มต้นภารกิจได้ โดยที่จะเป็นการเล่นแบบสำรวจพื้นที่ต่างๆ ในครั้งแรกที่เล่นจบไปแล้ว ซึ่งเราก็จะสามารถเลือกวางแผนได้ว่าเราจะเริ่มต้นภารกิจจากจุดไหนของสถานที่ หรือเลือกว่าจะเอาอุปกรณ์ที่เราไม่สามารถพกพาได้อย่างปืนสไนเปอร์กระบอกใหญ่ไปวางไว้ที่จุดไหน เพื่อให้ทำภารกิจของได้ง่ายขึ้น
สนุกไปกับแฟชั่นการปลอมตัว
ถ้าหากต้องพูดถึง Signature ของเกมในซีรี่ย์ Hitman ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการปลอมตัวก็จะต้องเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน โดยที่ในแต่ละสถานที่ที่เราไปทำภารกิจก็จะมีลักษณะการแต่งตัวที่แตกต่างกันออกไป อย่างประเทศเมืองร้อนก็จะเป็นแค่เสื้อเชิ๊ตธรรมดาที่ดูสบายๆ แต่ถ้าเป็นเมืองหนาวก็จะใส่เสื้อขนสัตว์หนาๆ ซึ่งในแต่ละสถานที่ก็จะมีลักษณะการแต่งตัวที่ทำให้ NPC จับไม่ได้ที่แตกต่างกันอีกด้วย
ลืมการเล่นเกมลอบเร้นแบบชิลๆ ไปได้เลย เพราะ NPC ในเกมนี้ฉลาดมาก!
ความฉลากของ AI เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่สำคัญที่ทำให้เกมนี้ท้าทายผู้เล่นเกมแนวลอบเร้นเป็นอย่างมาก เพราะ NPC ในเกมนี้นั้นฉลาดกว่าที่คุณคิด ถึงแม้ว่าคุณจะปลอมตัวให้เข้ากับสถานที่นั้นแล้ว แต่ถ้าคุณหิ้วอุปกรณ์ที่ดูน่าสงสัยอยู่กับตัว NPC ก็จะเริ่มสงสัยในตัวเราอยู่ดี ซึ่งมีโอกาสที่ทำให้ทุกสิ่งที่เราทำมาแบบแนบเนียนพังทลายไปหมดเลยก็ได้ และนอกจากนั้น NPC ที่ไม่ได้เป็นยามที่ติดอาวุธก็สามารถทำให้เรา Stealth แตกได้ง่ายๆ เช่นกัน ถ้าหากว่าเราทำอะไรที่น่าสงสัยแล้ว NPC เดินมาเห็น ก็จะสามารถทำให้เราเดือดร้อนได้อีก ดังนั้น NPC จึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ทำให้เกมนี้ยากกว่าเกมแนวลอบเร้นทั่วไปอย่างมาก
วิธีการฆ่าที่เหนือกว่าจินตนาการของคุณ
ถ้าหากว่าเป็นเกมแนวลอบเร้นเกมอื่นๆ วิธีในการที่จะจัดการกับเป้าหมายของคุณก็จะไม่พ้นการเอาปืนยิงหัวหรือการย่องไปหักคอหรือใช้มีดแทง แต่ไม่ใช่สำหรับเกมนี้ เพราะเราจะสามารถใช้สถานการณ์ต่างๆ หรือสภาพแวดล้อมทั่วไปที่มีอยู่ในฉากในการจัดการเป้าหมายได้ ทำให้เลือกได้อย่างหลากหลายว่าจะเลือกฆ่าด้วยการบุกเข้าไปฆ่ากลางฝูงชน, จะลอบสังหารด้วยอาวุธอย่างเกมอื่นๆ หรือจะใช้วิธีการที่แตกต่างอย่างการสร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุก็ได้ อย่างเช่น สร้างสถานการณ์ให้เป้าหมายพลัดตกตึก หรือจะทำให้เป้าหมายโดนไฟช็อตตาย ซึ่งจะทำให้เราสามารถจัดการกับเป้าหมายได้โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของเรา
ทั้งหมดทั้งมวลจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกมนี้เป็นการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่หลังจากภาค Absolution ไตรภาค Hitman นี้จึงเป็นหนึ่งในเกมที่ผู้เขียนแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพที่ดูสวยงาม และระบบการเล่นที่พัฒนาให้ดีมากขึ้น เชื่อว่าจะสามารถทำให้คนที่ติดตามเกมในซีรี่ย์ Hitman หรือชอบเล่นเกมสไตล์ลอบเร้น จะสนุกไปกับการรับบท Agent 47 อย่างแน่นอน โดยสามารถหาซื้อมาเล่นได้ทาง PC on Steam, Epic Games Store หรือ Console บน PlayStation, XBOX
Link to Steam: https://store.steampowered.com/app/236870/HITMAN/
กลับมากันอีกครั้งกับ Agent 47 ในความทรงจำของแฟนๆจากซีรี่ย์ Hitman ซึ่งวันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำอีกเกมหนึ่งในซีรี่ย์ที่กลับมาในรูปแบบไตรภาคให้ทุกคนได้รู้จักกัน โดยในไตรภาคนี้จะเป็นภาคที่ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ภาค Absolution ในปี 2012 ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าทั้ง 3 ภาคล่าสุดที่ปล่อยมาก็จะให้ความรู้สึกที่ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากในแต่ละภาค
เรื่องราวสู่การจ้างวานในภาคนี้
ในไตรภาคนี้เราก็จะได้รับบทเป็นพี่โล้นซ่า Agent 47 อีกเช่นเคย โดยที่เราก็จะได้เห็นเนื้อเรื่องที่เชื่อมโยงกันในแต่ละภาค โดยที่จะเป็นภารกิจต่างๆ ก็จะถูกแบ่งออกเป็นสถานที่ต่างๆที่แตกต่างกันไปในแต่ละภารกิจ ซึ่งทั้ง 3 ภาคก็จะเป็นลักษณะที่คล้ายๆ กันไม่ได้แตกต่างมากนัก โดยที่เมื่อเราทำภารกิจไปเรื่อยๆ เราก็จะเริ่มรู้สึกได้ว่าการที่เราถูกส่งไปทำภารกิจในแต่ละที่นั้น มันไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเหมือนว่าผู้จ้างวานนั้นจงใจให้เรากำลังเดินไปตามหมากที่เขาวางเอาไว้ โดยที่บทสรุปของเรื่องก็จะเกิดขึ้นในภาค 3 เรียกว่าได้ติดตามกันเป็นเหมือนกับการนั่งดูซีรี่ย์ยาวๆ สักเรื่องนึงเลยล่ะ
มาในรูปแบบเกือบจะเป็น Open World
สิ่งแรกที่แตกต่างไปจากภาคเก่า คือเราจะสามารถสนุกไปกับความอิสระของเกมนี้ได้อย่างเต็มที่ เพราะว่าเราจะสามารถเดินไปไหนมาไหนเพื่อสำรวจภายในฉากของด่านได้ เพื่อวางแผนว่าจะต้องทำอะไรต่อไป เป็นขั้นตอนอย่างไรบ้าง เช่น จะดึงความสนใจของยามก่อนแล้วค่อยเข้าไปลงมือ หรือดูว่าสามารถใช้วิธีไหนในการจัดการกับเป้าหมายได้บ้าง และวิธีไหนจะเหมาะสมมากที่สุด
วางกลยุทธ์ก่อนเริ่มงานเพื่อลดความเสี่ยง
ถ้าหากว่าเราเล่นจบภารกิจไปแล้วรอบนึง หากจะกลับไปเล่นด่านเดินอีกครั้งในช่วงก่อนที่จะเข้าสู่ในภารกิจ เราจะสามารถวางแผนก่อนที่จะเริ่มต้นภารกิจได้ โดยที่จะเป็นการเล่นแบบสำรวจพื้นที่ต่างๆ ในครั้งแรกที่เล่นจบไปแล้ว ซึ่งเราก็จะสามารถเลือกวางแผนได้ว่าเราจะเริ่มต้นภารกิจจากจุดไหนของสถานที่ หรือเลือกว่าจะเอาอุปกรณ์ที่เราไม่สามารถพกพาได้อย่างปืนสไนเปอร์กระบอกใหญ่ไปวางไว้ที่จุดไหน เพื่อให้ทำภารกิจของได้ง่ายขึ้น
สนุกไปกับแฟชั่นการปลอมตัว
ถ้าหากต้องพูดถึง Signature ของเกมในซีรี่ย์ Hitman ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการปลอมตัวก็จะต้องเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน โดยที่ในแต่ละสถานที่ที่เราไปทำภารกิจก็จะมีลักษณะการแต่งตัวที่แตกต่างกันออกไป อย่างประเทศเมืองร้อนก็จะเป็นแค่เสื้อเชิ๊ตธรรมดาที่ดูสบายๆ แต่ถ้าเป็นเมืองหนาวก็จะใส่เสื้อขนสัตว์หนาๆ ซึ่งในแต่ละสถานที่ก็จะมีลักษณะการแต่งตัวที่ทำให้ NPC จับไม่ได้ที่แตกต่างกันอีกด้วย
ลืมการเล่นเกมลอบเร้นแบบชิลๆ ไปได้เลย เพราะ NPC ในเกมนี้ฉลาดมาก!
ความฉลากของ AI เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่สำคัญที่ทำให้เกมนี้ท้าทายผู้เล่นเกมแนวลอบเร้นเป็นอย่างมาก เพราะ NPC ในเกมนี้นั้นฉลาดกว่าที่คุณคิด ถึงแม้ว่าคุณจะปลอมตัวให้เข้ากับสถานที่นั้นแล้ว แต่ถ้าคุณหิ้วอุปกรณ์ที่ดูน่าสงสัยอยู่กับตัว NPC ก็จะเริ่มสงสัยในตัวเราอยู่ดี ซึ่งมีโอกาสที่ทำให้ทุกสิ่งที่เราทำมาแบบแนบเนียนพังทลายไปหมดเลยก็ได้ และนอกจากนั้น NPC ที่ไม่ได้เป็นยามที่ติดอาวุธก็สามารถทำให้เรา Stealth แตกได้ง่ายๆ เช่นกัน ถ้าหากว่าเราทำอะไรที่น่าสงสัยแล้ว NPC เดินมาเห็น ก็จะสามารถทำให้เราเดือดร้อนได้อีก ดังนั้น NPC จึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ทำให้เกมนี้ยากกว่าเกมแนวลอบเร้นทั่วไปอย่างมาก
วิธีการฆ่าที่เหนือกว่าจินตนาการของคุณ
ถ้าหากว่าเป็นเกมแนวลอบเร้นเกมอื่นๆ วิธีในการที่จะจัดการกับเป้าหมายของคุณก็จะไม่พ้นการเอาปืนยิงหัวหรือการย่องไปหักคอหรือใช้มีดแทง แต่ไม่ใช่สำหรับเกมนี้ เพราะเราจะสามารถใช้สถานการณ์ต่างๆ หรือสภาพแวดล้อมทั่วไปที่มีอยู่ในฉากในการจัดการเป้าหมายได้ ทำให้เลือกได้อย่างหลากหลายว่าจะเลือกฆ่าด้วยการบุกเข้าไปฆ่ากลางฝูงชน, จะลอบสังหารด้วยอาวุธอย่างเกมอื่นๆ หรือจะใช้วิธีการที่แตกต่างอย่างการสร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุก็ได้ อย่างเช่น สร้างสถานการณ์ให้เป้าหมายพลัดตกตึก หรือจะทำให้เป้าหมายโดนไฟช็อตตาย ซึ่งจะทำให้เราสามารถจัดการกับเป้าหมายได้โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของเรา
ทั้งหมดทั้งมวลจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกมนี้เป็นการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่หลังจากภาค Absolution ไตรภาค Hitman นี้จึงเป็นหนึ่งในเกมที่ผู้เขียนแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพที่ดูสวยงาม และระบบการเล่นที่พัฒนาให้ดีมากขึ้น เชื่อว่าจะสามารถทำให้คนที่ติดตามเกมในซีรี่ย์ Hitman หรือชอบเล่นเกมสไตล์ลอบเร้น จะสนุกไปกับการรับบท Agent 47 อย่างแน่นอน โดยสามารถหาซื้อมาเล่นได้ทาง PC on Steam, Epic Games Store หรือ Console บน PlayStation, XBOX
Link to Steam: https://store.steampowered.com/app/236870/HITMAN/