ตัวละคร Aloy 'ผู้ปลดปล่อยจากต่างโลก' เป็นตัวละคร Crossover จากเกม Horizon Zero Dawn โดยผู้เล่นจะได้รับทันทีผ่านจดหมายภายในเกม สำหรับผู้เล่นบนเครื่อง PlayStation จะได้รับไปตั้งแต่แพช 2.1 แต่สำหรับ PC และโทรศัพท์จะเพิ่งได้รับตอนแพช 2.2 เข้ามา เรียกได้ว่ามีตัวละคร 5 ดาวฟรีกันถ้วนหน้าทุกคนเลยทีเดียว แต่สำหรับใครที่ยังลังเลไม่แน่ใจ ว่าจะจ่ายทรัพยากรที่มีไปกับตัวละครนี้ยังไงดี หรือยังสงสัยว่าตัวละครนี้ใช้งานยังไงได้บ้าง เราจะมาสรุปความสามารถและแนวทางการเล่นตัวละครนี้ให้เอง

[รายละเอียดตัวละคร]

Aloy 'ผู้ปลดปล่อยจากต่างโลก'

ระดับ: 5*
ธาตุ: น้ำแข็ง (Cryo)
อาวุธ: ธนู

พรสวรรค์:

Normal Attack: Rapid Fire

โจมตีปกติด้วยธนูสูงสุด 4 ครั้งโดยจะสร้างความเสียหายเป็นกายภาพ และเมื่อชาร์จโจมตีจนเต็มจะสร้างความเสียหายเป็นน้ำแข็ง

Elemental Skill: Frozen Wilds

Aloy จะทำการขว้าง Freeze Bomb (ระเบิดแช่แข็ง) ใส่ศัตรูและทำความเสียหายน้ำแข็ง หลังจากนั้นจะแตกออกเป็น Chillwater Bomblets ขนาดเล็ก 6 ลูกซึ่งจะระเบิดทำความเสียหายน้ำแข็งเมื่อโดนศัตรู หรือเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ระเบิด Freeze Bomb และ Chillwater Bomblets แต่ละลูกที่โดนศัตรูจะลด ATK ของศัตรูและมอบ Coil ให้กับ Aloy 1 stack ซึ่งจะรับได้ 1 Coil ต่อ 0.1 วินาที

Coil แต่ละขั้นจะเพิ่มความเสียหายการโจมตีปกติให้ Aloy ซึ่งจะเก็บได้สูงสุด 4 Coil หลังจากครบ 4 Coil จะเข้าสู่สถานะ Rushing Ice State ซึ่งจะเปลี่ยนการโจมตีปกติให้เป็นความเสียหายน้ำแข็งแทน

Elemental Burst: Prophecies of Dawn

Aloy จะขว้าง Power Cell และยิงธนูใส่เพื่อจุดระเบิด สร้างความเสียหายน้ำแข็งอย่างรุนแรงเป็นวงกว้าง 1 ครั้ง 

พรสวรรค์เมื่อปลดขั้นที่ 1: Combat Override.

เมื่อ Aloy ได้รับ Coil จะเพิ่มพลังโจมตีตัวเอง 16% และจะเพิ่มให้กับเพื่อนรอบๆ 8% เป็นเวลา 10 วินาที

พรสวรรค์เมื่อปลดขั้นที่ 4: Strong Strike.

เมื่อ Aloy อยู่ในภาวะ Rushing Ice State จะเพิ่มความเสียหายน้ำแข็งให้ตัวเอง 3.5% ทุกๆ 1วินาที (สูงสุด 35%)

พรสวรรค์ติดตัว: Easy Does It.

เมื่อมี Aloy ร่วมทีมจะทำให้สิ่งมีชีวิตที่ให้ Fowl, Raw Meat และ Chilled Meat ไม่หนีตอนเราเข้าใกล้ (เอาไว้แกล้งทิมมี่)

และนี่คือความสามารถทั้งหมดของ Aloy นอกจากนี้ตัวละครตัวนี้จะไม่มีกลุ่มดาวหรือ Constellation เนื่องจากเป็นตัวละคร Collaboration (คอลแลป) ซึ่งทำให้ความสามารถอาจด้อยกว่าบางตัว แต่ในอนาคตอาจมีไอเทมที่ช่วยปลดกลุ่มดาวได้เหมือนนักเดินทางของเรา ซึ่งก็ต้องรอลุ้นต่อไป

[Guide]

มาถึงไกด์การเล่นของนักล่าจากต่างโลกของเรา อย่างที่เห็นว่าความสามารถของเธอนั้น สามารถเล่นเป็นตัว DPS หลักยืนสนามเพื่อทำความเสียหายจากการโจมตีปกติ หรือจะเล่นเป็นสายระเบิดไม้ตาย ออกมาขว้างปาข้าวของและกลับไปก็ได้เช่นกัน แถมยังมีความสามารถซัพทีมเพิ่ม ATK และแปะธาตุน้ำแข็งก็ทำได้ โดยตำแหน่งหน้าที่ของ Aloy เท่าที่ได้ทดลองเล่นมา สามารถแบ่งออกเป็น 3 สายหลักๆ คือ Main DPS, Sup Burst และเป็น Support Utility ขึ้นอยู่กับความชอบ และความถนัดของแต่ละคน โดยสายที่เราจะแนะนำมีดังนี้

1. Main DPS:

[อาวุธ]

CRIT DMG/CRIT Rate: ด้วยความที่ตัวละคร Aloy เป็นธาตุน้ำแข็งซึ่งเก่งในการดันอัตราคิติคอลได้ดีอยู่แล้ว ทำให้เราสามารถมาเน้นที่ความเสียหายคริติคอลได้เต็มที่ ซึ่งทำให้เพิ่มขีดสุดของความเสียหายให้ที่ทำได้ให้รุนแรงมากๆ แต่ทั้งนี้หากใครอยากเล่นกับทีม และใช้อาร์ติแฟคได้หลากหลาย แล้วจะเน้นอัตราคริเป็นหลักก็ได้เช่นกัน

ธนูแนะนำ: Polar Star >> Thundering Pulse >> Skyward Harp >> Viridescent Hunt >> SlingShot

Normal ATK: ใครจะเล่นโจมตีปกติ และมองว่าสามารถหาอัตราคริหรือความแรงคริจากอาร์ติแฟคได้ ก็ใช้เป็นธนูที่มีความสามารถเพิ่มความเสียหายให้การโจมตีปกติก็ได้ เพราะด้วยความสามารถรองของอาวุธหลายๆ ชิ้นเป็น ATK ทำให้ดันพลังโจมตี Aloy ได้ค่อนข้างสูง

ธนูแนะนำ: Rust >> Hamayumi >> Windblume Ode >> Prototype crescent >> Raven Bow

[อาร์ติแฟค]

การจัดอาร์ติแฟคให้สาย DPS จะเน้นไปที่การเพิ่มความเสียหายโดยรวมเพราะ เพราะ Aloy เป็นตัวที่ต้องกดทุกสกิลเวลาอยู่บนบนสนามการเพิ่มพลังโจมตีและน้ำแข็ง

• 4 Blizzard Strayer: เซ็ตที่เกิดมาเพื่อ DPS ธาตุน้ำแข็งโดยแท้ เพราะจะเพิ่มความเสียหายน้ำแข็ง 15% และเพิ่มอัตราคริติคอลได้สูงสุดถึง 40% เมื่อศัตรูติดแช่แข็ง (20%หากติดแค่ธาตุน้ำแข็ง)
• 2 Blizzard Strayer + 2 Gladiator’s Finale: เซ็ตมาตรฐานสำหรับ DPS ที่จะเพิ่มความเสียหายน้ำแข็ง 15% และเพิ่มพลังโจมตีอีก 18% ทำให้แรงทั้งการโจตีปกติ สกิลธาตุและไม้ตายเลยทีเดียว (สามารถเปลี่ยน Gladiator’s Finale 2 เป็น Shimenawa 2 ได้)

Status อาร์ติแฟค:

หัว: CriRate / CriDamage เป็นส่วนที่ใช้เติมอัตราคริติคอลหรือคริติคอลดาเมจขึ้นอยู่กับอาวุธที่ใช้ หรือผลรวมอาติแฟครองว่าขาดส่วนไหนมากกว่ากัน

นาฬิกา: ATK% เป็นเหมือนภาคบังคับว่าสาย DPS ควรใส่เป็นพลังโจมตีเอาไว้เสมอเพื่อสร้างความเสียให้มากที่สุด

ถ้วย: Cryo DMG เนื่องด้วยความเสียหายหลักทั้งหมดเป็นความเสียหายน้ำแข็ง ถ้วยความเสียหายน้ำแข็งจึงเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวละครนี้

*Status รองที่คาดหวัง CRIT Rate >> CRIT DMG >> ATK%

[การอัพพรสวรรค์]

Normal Attack: Rapid Fire >> Prophecies of Dawn(Q) >> Frozen Wilds(E)

เน้นที่การโจมตีปกติให้แรงที่สุด รองลงมาคือไม้ตายเพื่อกดใช้ก่อนเปลี่ยนตัวออกรอคูลดาวน์ และสกิลธาตุเป็นลำดับสุดท้าย

[ทีมแนะนำ]

Aloy >> Bennett >> Xianling >> Anemo: สายเพิ่ม ATK จาก 2 ไฟและไม้ตายของ Bennett และใช้ลมลดต้านธาตุศัตรู 

Aloy >> Xingqui >> Cryo >> Heal/Shield: สายแช่แข็งเพื่อ CC และเพิ่มคริจากน้ำแข็ง 2 ตัว ส่วนตัวสุดท้ายเป็นตัวฮีลหรือกางโล่ก็ได้

2. Sup Burst:

[อาวุธ]

CRIT Rate & CRIT DMG: แน่นอนว่าค่าพลังมาตรฐานของการสร้างความเสียหายยังไงก็ต้องมีคริติคอลเป็นส่วนประกอบหลักที่ขาดไม่ได้ โดยธนูที่ใช้ได้จะหลายหลายมากขึ้นกับว่าเรามีอะไรหรือเราบาลานซ์อาร์ติแฟคแล้วขาดอะไร ก็เลือกอาวุธมาชดเชยในส่วนนั้น

ธนูแนะนำ: Polar Star >> Thundering Pulse >> Skyward Harp >> Viridescent Hunt 

Ultimate: สำหรับใครที่อยากเล่นแค่เอามาฟาดท่าไม้ตาย ใช้แค่ออกมากดไม้ตายตู้มแล้วเปลี่ยนออก จะใช้ธนูที่ให้ค่าชำนาญธาตุเพราะเปอร์เซ็นต์ของไม้ตาย Aloy นั้นค่อนข้างสูงแถมยังเป็นธาตุน้ำแข็งซึ่งทำละลายได้ความเสียหายเพิ่มถึง 1.5เท่า ใช้พลังงานน้อย คูลดาวน์ก็สั้น จึงเป็นอีกสายที่เล่นสนุกมาก ยิ่งเล่นกับทีมที่ต้องวนตัวละครออกมายิ่งเพลิน

ธนูแนะนำ:  Elegy for the End >> The Stringless >> Sacrificial bow >> Favonius Warbow

[อาร์ติแฟค]

การจัดอาร์ติแฟคให้ Aloy ของสายระเบิดไม้ตายนั้นยังคงเน้นความเสียหายน้ำแข็งและพลังโจมเป็นหลัก เพราะความเสียหายหลักของเรายังคงเป็นความเสียหายน้ำแข็งซึ่งใช้พลังโจมตีมาคำนวนด้วย

• 2 Blizzard strayer + 2 Gladiator’s Finale: เซ็ตสำหรับทุกความต้องการความเสียหายเพราะเพิ่มความเสียหายน้ำแข็ง 15% และเพิ่มพลังโจมตีอีก 18% ทำให้แรงทั้ง สกิลธาตุและไม้ตาย (สามารถเปลี่ยน Gladiator’s Finale 2 เป็น Shimenawa 2 ได้)
• 2 Blizzard strayer + 2 Noblesse Oblige: เซ็ตที่จะช่วยเสริมพลังให้ท่าไม้ตายแรงสุดๆ ด้วยการเพิ่มความเสียหายน้ำแข็ง 15% และเพิ่มความเสียหายไม้ตายอีก 20%
• 4 Emblem of Severed Fate: เซ็ตใหม่สุดโหดสำหรับตัวละครเน้นไม้ตาย เพราะเซ็ต 2 ชิ้นจะเพิ่มฟื้นฟูพลังงาน 20% และจะเพิ่มความเสียหายท่าไม้ตายสูงสุดที่ 75% คิดจากค่าฟื้นฟูพลังงาน

Status อาร์ติแฟค:

หัว: ยังคงเน้น CriRate / CriDamage ขึ้นอยู่กับอาวุธที่ใช้ หรือผลรวมอาติแฟครองว่าขาดส่วนอะไร

นาฬิกา: ATK% เป็นเหมือนภาคบังคับว่าถ้าอยากสร้างความเสียหายก็ควรใส่เป็นพลังโจมตีเอาไว้ เพราะ Aloy ใช้พลังงานที่น้อยอยู่แล้ว ลำพังค่าฟื้นฟูจากอาวุธหรือออฟชั่นรองก็เพียงพอแล้ว

ถ้วย: Cryo DMG แน่นอนว่าความเสียหายท่าไม้ตายเป็นน้ำแข็ง ถ้วยความเสียหายน้ำแข็งจึงเหมาะสมที่สุดสำหรับสายนี้

*Status รองที่คาดหวัง CRIT Rate/DMG >> ATK% >> ชำนาญธาตุ

[การอัพพรสวรรค์]

Prophecies of Dawn(Q) >> Frozen Wilds(E) >> Normal Attack: Rapid Fire

เน้นที่ท่าไม้ตายซึ่งแรงที่สุด รองลงมาจะอัพเป็นสกิลธาตุ ส่วนโจมตี Normal Attack จะอัพหรือไม่ก็ได้เพราะเราไม่ได้ใช้งานตรงนั้น

[ทีมแนะนำ]

Aloy >> Bennett >> DPS(Pyro) >> Anemo: เนื่องจาก Aloy อยู่ในตำแหน่ง Sup Burst ดังนั้นในทีมต้องมี DPS หลักอีกตัวแนะนำเป็นธาตุไฟเพื่อทำคอมโบละลาย เช่น Hutao, Klee, Yanfei หรือ Diluc

Aloy >> Xingqui >> DPS(Cryo) >> Heal/Shield: สายเพิ่มแช่แข็งเพื่อ CC และเพิ่มคริจาก 2 น้ำแข็ง ตัวสุดท้ายเป็นตัวฮีลหรือกางโล่เพื่อความปลอดภัยของ DPS เรา

3. Utility:

[อาวุธ]

Energy Recharge: เนื่องด้วยสายนี้เล่นเป็นแบตเตอรี่ ที่ออกมากดสกิลธาตุเพื่อช่วยเพิ่มพลังงานธาตุให้เพื่อน และยังสามารถเพิ่มพลังโจมตีให้อีกนิดหน่อย ดาเมจที่สายนี้ทำได้จึงมาจากท่าไม้ตายเป็นหลัก การใช้ธนูที่ช่วยฟื้นฟูพลังงานจึงเป็นทางเลือกเหมาะสุดๆ

ธนูแนะนำ: Elegy for the End >> Sacrificial bow >> Favonius Warbow

[อาร์ติแฟค]

อาร์ติแฟคของนี้ จะเน้นที่การซัพเพื่อนร่วมทีม โดยจะใช้ความเสียหายจากไม้ตายเป็นส่วนเสริมเพื่อให้เวลาที่ Aloy ลงสนามมา ความเสียจะได้ไม่ขาดช่วง

4 Noblesse Oblige: คิดอะไรไม่ออกบอก 4 Noblesse ซัพหรับสายซัพ Utility ด้วยการเพิ่มฟื้นฟูพลังงาน 20% และยังช่วยเพิ่มพลังโจมตีเพื่อนร่วมทีมไปอีก 20% หลังใช้ท่าไม้ตาย เรียกได้ว่าเพิ่ม 2 เด้งทั้งจากตัว Aloy ทั้งจากอาร์ติแฟค

4 Emblem of Severed Fate: ยังคงเป็นเซ็ตที่ไม่เลว สำหรับสายนี้ แต่ว่าความเสียหายที่ทำได้จะหายไปเยอะหน่อย เทียบกับเซ็ตอื่นๆ ก่อนหน้านี้

Status อาร์ติแฟค:

หัว: ยังคงเน้น CriRate / CriDamage ขึ้นอยู่กับอาวุธที่ใช้  หรือผลรวมอาติแฟครองว่าขาดส่วนอะไร

นาฬิกา: ATK% สาเหตุที่ยังคงใส่เป็น ATK เพราะว่าสายนี้จะใช้อาวุธเป็นฟื้นฟูพลังงานอยู่แล้ว ประกอบกับ Aloyต้องพลังงานน้อยมากๆ ในการใช้ท่าไม้ตาย การใส่ฟื้นฟูพลังงานดูจะเกินความจำเป็นไปหน่อย

ถ้วย: Cryo DMG ความเสียหายที่สายนี้ทำได้จะมาจากท่าไม้ตายเป็นหลัก ถ้วยความเสียหายน้ำแข็งดีที่สุด

*Status รองที่คาดหวัง CRIT Rate/DMG >> ATK% >> ฟื้นฟูพลังงาน

[การอัพพรสวรรค์]

Prophecies of Dawn(Q) >> Frozen Wilds(E) >> Normal Attack: Rapid Fire

การอัพพรสวรรค์จะเหมือนกันสาย Burst ที่จะเน้นท่าไม้ตายก่อน รองลงมาสกิลธาตุ ส่วนโจมตี Normal Attack ไม่จำเป็นต้องอัพ

[ทีมแนะนำ]

Aloy >> DPS(Cryo) >> Free >> Free: สายแบตเตอรี่สำหรับ Dps ธาตุน้ำแข็งที่ต้องการพลังงานเยอะๆ เช่น Ayaka หรือ Eula ก็ได้ ส่วนอีกสองตัวปล่อยฟรี ขึ้นอยู่กับความถนัดล้วนๆ จะเป็นธาตุน้ำทำคอมโบแช่แข็ง คอมโบละลาย หรือลมลดต้านทานธาตุก็ได้

สรุปความเห็นเมื่อทดลองเล่นแต่ละสาย

สาย Main DPS: รูปแบบการเล่นจะคล้ายๆ DPS บางตัวอย่าง Childe หรือ Yoimiya ที่ลงพื้นที่มา กดสกิลธาตุและสร้างความเสียหายระยะเวลาหนึ่งแล้วสลับตัวออกรอคูลดาวน์วนกลับมาใหม่ และสร้างความเสียหายได้ดีในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะน้อยกว่า DPS 5 ดาว เพราะด้วยพลังโจมตีพื้นฐานที่น้อย ขณะเดียวกัน Aloy ต้องมีการสลับตัวละครหลายๆ ตัวลงมาเล่นซึ่งทำให้เล่นได้สนุกแต่ข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดของสายนี้คือ ความยุ่งยากในการทำให้ติด Coil ครบ 4 เพราะการได้รับมีคูลดาวน์ 0.1 วินาที นั่นหมายถึงถ้าเรารวบระเบิดให้โดนศัตรู มีโอกาสที่จะระเบิดโดนพร้อมกันซึ่งทำให้ไม่ได้รับ Coil ครบ 4 และต้องรอคูลดาวน์กดครั้งต่ไปค่อนข้างนาน เลยจะมีความขาดช่วงในการสร้างความเสียเล็กน้อย

สาย Sup Burst: เป็นรูปแบบที่ค่อนค้างยืดหยุ่น อาวุธ อาร์ติแฟค และทีมเองก็มีความยืดหยุ่นสูง และยังเป็นทำเป็นตัวอุดช่องสำหรับทีมน้ำแข็งได้ ด้วยความเสียหายท่าไม้ตายที่บ่อยมาก แถมยังค่อนข้างรุนแรงและใช้พลังงานน้อย จึงช่วยเสริมความเสียหายรวมให้ทีมได้ดี ข้อเสียหลักๆของสายนี้คือการจัดสรรทรัพยากร เพราะว่าอุปกรณ์ที่ใช้จะค่อนข้างคล้ายตัว DPS หลัก จึงอาจจะใช้เวลาปั้นค่อนข้างใช้เวลา

สาย Utility: เป็นสายการเล่นที่ลองแล้วชอบที่สุด เหมาะและเข้ามือมากด้วยความสามารถในการสร้างอณูธาตุจากระเบิด 6 ลูกเล็กๆ ทำให้ได้พลังงานให้ตัวละครอื่นเยอะ ยิ่งถ้าเราใส่ Sacrificial bow ซึ่งทำให้มีโอกาสปาระเบิด 2 ลูก เท่ากับว่าเราจะได้ 12ลูกเล็ก พลังงานธาตุที่ได้จะเยอะมากๆ และยังเพิ่มพลังโจมตีให้ทีมได้บ่อยๆด้วย ข้อเสียของสายนี้คือการสร้างความเสียหายที่ต่ำมากเพราะอุปกรณ์ที่ใช้แทบไม่มีส่วนช่วยให้สร้างความเสียหายเลย แต่ด้วยการกินเวลาสนามที่ไม่เยอะ ทำให้เป็นข้อเสียที่รับได้

และนี่ก็คือสายการเล่นที่รู้สึกว่าเล่นแล้วสนุก สามารถลุย Content ส่วนมากของเกมได้ หากใครรู้สึกชอบหรือสนใจสายไหนก็ลองเอาไปปรับๆ ให้เค้ามือได้เต็มที่เลย รับรองว่าเล่นได้อย่างสนุกสนานอย่างแน่นอน