พูดถึงเกมแนว FPS ที่กำลังมาแรงอย่าง Valorant เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเล่นเกมนี้กันไปบ้างแล้ว แต่แทบจะทุกครั้งที่เล่นหลายคนอาจจะตั้งคำถามในใจกันว่า "เอ๊ะ! จะเล่นตัวละครไหนดี?", "เลือกตัวละครนี้จะดีไหม?" ซึ่งตัวละครในเกม Valorant มีให้เลือกเล่นมากถึง 11 ตัว แต่ละตัวมีตำแหน่งที่แตกต่างกันโดยตัวเกมนี้จะมีทั้งหมด 4 ตำแหน่งประกอบไปด้วย โดยตำแหน่งต่างๆ จะมีหน้าที่ต่างกันดังนี้
1.Duelist (Jett,Raze,Reyna,Phoenix)
เป็นตำแหน่งที่จะเป็นเข้าโจมตีก่อนเพื่อน (พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือตำแหน่งแนวหน้าไปรับกระสุนก่อนเพื่อนนั่นเอง555+) นอกจากจะเข้าโจมตีแล้วต้องมีสกิลที่สามารถใช้ในการหนีได้อีกด้วย
2.Initiator (Sova,Breach)
หน้าที่ของตำแหน่งคือสร้างจังหว่ะให้กับเพื่อนในทีมให้เข้าปะทะได้ง่ายขึ้น ด้วยสกิลที่ออกแบบมาให้ฝ่ายศัตรูถูกก่อกวนทำให้สามารถทำอะไรได้ยาก และเชื่องช้าลง
3.Controller (Omen,Viper,Brimstone)
ในที่นี้หมายถึงตัวละครที่สามารถยึดพื้นที่ในแผนที่ หรือช่วยเหลือเพื่อนในทีมโดยควบคุมไม่ให้ศัตรูเข้าถึงพื้นที่ได้ แต่รูปแบบของสกิลจะแตกต่างจาก Initiator ตรงที่จะเป็นวงกว้าง และยึดแผนที่ของเกมได้มากกว่า
4.Sentinel (Cypher,Sage)
คือสายซัพพอตที่มีสกิลเน้นไปทางด้านการช่วยเหลือเพื่อนๆ ในทีมไม่ว่าจะเป็นการฮีลเพื่อนร่วมทีมการขัดขวางศัตรู รวมไปถึงต้องคอยระวังให้กับเพื่อนๆ
ส่วนในบทความนี้เราจะมาพูดถึง 5 ตัวละครในตำแหน่งต่างๆ ที่ไม่ควรพลาดในการหยิบมาถ้าอยากชนะส่วนจะมีอะไรกันบ้างมาดูกันเลย!!
1.Phoenix ตำแหน่ง Duelist
Phoenix เป็นตัวละครมีสกิลการเข้าปะทะและช่วยเหลือทีมได้ค่อนข้างจะครบครันโดยรายละเอียดสกิลของเขามีดังนี้
- ปุ่ม C สกิล Blaze ขว้างสกิลออกไปจะเกิดกำแพงไฟที่หากศัตรวิ่งผ่านมาจะโดนดาเมจทั้งยังใชช้บังทัศนวิสัยได้
- ปุ่ม Q สกิล Curveball ลูกแฟลชทำให้ศัตรูติดสถานะตาบอดได้ระยะหนึ่ง
- ปุ่ม E สกิล Hot hand หากขว้างไปที่พื้นทำให้เกิดกองไฟจะสร้างดาเมจแก่ศัตรู และยังสามารถฮีลให้กับตัวเขาได้อีกด้วย
- ปุ่ม X สกิล Run It Back (Ultimate) เป็นการมาร์คตำแหน่งปัจจุบันที่ยืนอยู่เพื่อเรียกตัวเขากลับมาเมื่อถูกศัตรูสังหาร หรือระยะเวลาสกิลหมดด้วยด้วยสภาวะเลือดเต็ม
(
สามารถรับชมวีดีตัวอย่างสกิลต่างๆ ของ Phoenix ได้ที่นี้)
หากเปรียบเทียบกับตัวละครตัวอื่นในตำแหน่งเดียวอย่าง
Raze หรือ
Jett ซึ่งเน้นสกิลในการกำจัดศัตรูด้วยตัวคนเดียวจะสังเกตุได้ว่า
Phoenix โดดเด่นกว่าในเรื่องของการสร้างจังหว่ะยึดพื้น และบอกตำแหน่งของศัตรูให้กับทีมได้ จึงเป็นเหตุผลที่ถ้าจะต้องเล่นในตำแหน่ง
Duelist ไม่ควรพลาด
2. Reyna ตำแหน่ง Duelist
อีก 1 ตัวละครสายจู่โจม
Reyna ถือเป็นอีกตัวละครที่ไม่ควรพลาดที่จะหยิบมาเล่นเพราะสกิลเธอนั้นไม่ธรรมดาเลยที่เดียวโดยรายละเอียดสกิลจะมีดังนี้
- ปุ่ม C สกิล Leer หากขว้างออกไปศัตรูจะติดสถานะตาบอดหากมองไปที่ดวงตา
- ปุ่ม Q สกิล Devour ช่วยให้สามารถฮิลเลือดตัวเองได้
- ปุ่ม E สกิล Dismiss ทำให้มีสถานะอมตะระยะเวลาสั้นๆ
- ปุ่ม X สกิล Empress (Ultimate) ถ้าเปิดใช้จะมองเห็นออร่าศัตรูเป็นสีแดง ทำให้เธอสามารถเข้าโจมตีได้อย่างแม่นยำ
(สามารถรับชมวีดีตัวอย่างสกิลต่างๆ ของ Reyna ได้ที่นี้)
ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอสามารถเอาตัวรอดในสนามรบได้ดีกว่าตัวละครอย่าง
Raze และ
Jett ต่อให้เธอจะมีสกิลเน้นการบุกเดี่ยว แต่ก็สามารถฮีลเลือดตัวเองได้จากเหตุผลข้อนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบของเธอเลยหล่ะ
3.Breach ตำแหน่ง Initiator
Breach ถือเป็นตัวละครที่มีสกิลในการเปิดทางให้ทีมเข้าการโจมตี และสามารถขัดจังหว่ะของศัตรูได้หากใช้สกิลอย่างถูกจังหว่ะจะทำให้ทีมชนะในเกมนั้นได้อย่างง่ายดายโดยสกิลมีดังต่อไปนี้
- ปุ่ม C สกิล Aftershock ลูกไฟขนาดใหญ่ที่ยิงทำดาเมจ และสามารถทะลุกำแพงได้
- ปุ่ม Q สกิล Flashpoint ลูกแฟลชที่จะถูกติดตั้งไว้ตาม Object (กล่อง,กำแพง) หากศัตรูมองไปตรงจุดนั้นจะทำให้ศัตรูติดสถานะตาบอด
- ปุ่ม E สกิล Fault Line สกิลนี้จะมีผลต่อการมองเห็นของศัตรูทำให้การมองเห็น และการเคลื่อนที่ รวมไปถึงการยิงปืนทำได้ช้าลง
- ปุ่ม Z สกิล Rolling Thunder (Ultimate) จะเป็นสกิลที่เหมือนกันกับ Fault Line แต่จะทำให้ศัตรูกระเด็นออกจากจุดที่ยืนอยู่
(สามารถรับชมวีดีตัวอย่างสกิลต่างๆ ของBreach ได้ที่นี้ )
ถือว่าเป็นตัวละครที่มีส่วนสำคัญของเกมแนว FPS เพราะช่วงจังหว่ะเพียงแค่เสี้ยววินาทีนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ หากจะเปรียบเทียบกับอีก 1 ตัวละครในตำแหน่งนี้อย่าง
Sova ที่มีสกิลในการช่วยควบคุมพื้นที่จากการยิงแสกนเพื่อระบุตำแหน่งศัตรู
Breach ที่มีสกิลในการขัดจังหว่ะของศัตรูได้ และสร้างโอกาสในการเข้าโจมตีได้ เป็นตัวละครที่ตอบโจทย์ได้ดีกว่าเลยทีเดียว
4. Brimstone ตำแหน่ง Controller
ถือเป็นอีกตัวละครที่น่าสนใจเพราะ
Brimstone เป็นไม่กี่ตัวตัวละครที่มีลูกเล่นของสกิลในการช่วยควบคุมพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีมได้ดี โดยสกิลของเขามีดังนี้
- ปุ่ม C สกิล Stim Beacon แท่นสีเหลี่ยมที่หากเพื่อนอยู่ในระยะสกิลจะทำให้ ความเร็วในการยิง และรีโหลดกระสุนเร็วขึ้น
- ปุ่ม Q สกิล Incendiary เป็นการยิงระเบิดไฟที่มีระยะกระเด้งก่อนจะลงพิ้นแล้วกลายเป็นเปลวเพลิง
- ปุ่ม E สกิล Sky Smoke หากเขาอยู่ในบริเวณใกล้เคียงจะสามารถสร้าง Smoke เพื่อควบคุมพื้นที่ได้ถึง 3 ลูก
- ปุ่ม X สกิล Orbital strike (Ultimate) ถ้าเรียกใช้จะสามารถเลือกตำแหน่งในแผนที่เพื่อยิงลำแสงที่สร้างดราเมจเป็นวงกว้างมากๆ
(สามารถรับชมวีดีตัวอย่างสกิลต่างๆ ของ Brimstone ได้ที่นี้ )
ด้วยเหตุผลนี้ทำให้
Brimstone สามารถช่วยทีมได้มากกว่าตัวละครตัวอย่าง
Omen ในตำแหน่งเดียวกัน ที่เน้นการสร้างจังหว่ะให้กับตัวเองในการเข้าสังหารศัตรู หรือ
Viper ที่ต่อให้มีสกิลพิษช่วยการควบคุมพื้นที่ แต่พิษดังกล่าวก็มีผลต่อเพื่อนร่วมทีม และตัวเองด้วย ดังนั้น
Brimstone สามารถใช้สกิลในส่วนนี้ได้มากกว่า
5.Sage ตำแหน่ง Sentinel
จะไม่พูดถึงกันไม่ได้กับ
Sage ตัวละครสายซัพพอตที่มีสกิลโดดเด่นดังนี้
- ปุ่ม C สกิล Barrier Orb หากเรียกใช้สามารถสร้างกำแพงน้ำแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูเข้ามาในพื้นที่ได้
- ปุ่ม Q สกิล Slow Orb เมื่อขว้าง Orb ออกไปที่พื้นจะทำให้พื้นในบริเวญนั้นเป็นน้ำแข็งหากศัตรูเดินผ่านจะทำให้การเคลื่อนที่ช้าลง และมีเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้น
- ปุ่ม E สกิล Healing Orb สามรถฟื้นฟูเลือดของเธอเอง และเพื่อนร่วมทีมได้
- ปุ่ม X สกิล Resurrection (Ultimate) เธอจะสามารถชุบชีวิตเพื่อนที่ถูกสังหารไปแล้วกลับขึ้นมามีเลือดเต็มอีกครั้ง จึงเป็นตัวละครที่สามารถพลิกเกมได้ และถือเป็นละครที่สามารถยื้อชีวิตของเพื่อนในทีมไว้ได้นานที่สุด
(สามารถรับชมวีดีตัวอย่างสกิลต่างๆ ของ Sage ได้ที่นี้ )
ถ้าพูดถึงอีกตัวละครในตำแหน่งเดียวกันอย่าง
Cypher ที่สกิลส่วนใหญ่จะเน้นไปในการมองหาศัตรูมากกว่า
Sage ที่มีสกิลในการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม จะทำให้รูปแบบเกมสามารถเล่นได้ง่ายขึ้นมากกว่าอย่างมากหากมีเธออยู่ในทีม
จากบทความนี้ที่หยิบตัวละครขึ้นมาพูดถึงเพียงแค่ 5 ตัวไม่ได้หมายความตัวละครที่เหลือไม่มีความเก่ง เชื่อว่าทุกๆตัวละครมีความสามารถในตัวเอง แต่ต้องใช้สกิลออกมาได้อย่างถูกต้องจึงจะเกิดประสิทธิภาพดีที่สุด หากผู้เล่นได้อ่านบทความนี้กันแล้ว รออะไรกันอยู่หล่ะเปิดเกมขึ้นมาแล้วไปลุยกันเลยดีกว่า!!
Kaopadnaem
นักเขียน
"หากพวกเรากำลังสบายจบปรบมือพลัน / / แป๊ะๆ "