ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันวงการเกมถือว่ามีการพัฒนาและถูกสร้างขึ้นมาเยอะมาก ซึ่งมีทั้งเกมหลากหลายแนว รวมถึงตัวละครในเกมอีกมากมาย โดยแต่ละเกมนั้นก็ล้วนเกิดจากไอเดียต่างๆ ซึ่งอาจจะเกิดจากความคิดของผู้สร้างเองบ้าง เกิดจากการนำภาพยนตร์หรือนิยายมาดัดแปลงบ้าง และบางเกมก็อาจจะได้รับแรงบันดาลใจมากจากเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริง หรือจากตัวบุคคลบางคนที่มีตัวตนอยู่จริงๆ อีกทั้งบางเกมก็เกิดจากข้อกำจัดของวงการเกมบ้าง ดังนั้นในวันนี้พวกเรา GameFever TH จะขอพาทุกคนมาพบกับ 8 ที่มาเกี่ยวกับเรื่องในวงการเกมที่คุณอาจจะยังไม่รู้ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย

1.ชื่อเกม ' DOOM ' ได้แรงบันดาลใจมาจากคำพูดในภาพยนตร์ที่ Tom Cruise แสดง!

    DOOM ถือเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์เกม FPS เดินหน้ายิงระดับตำนานที่ยังคงสร้างชื่อตั้งแต่ปี 1993 มาจนถึงปัจจุบัน แต่..เราเคยสงสัยกันไหมว่า ชื่อเกมนี้มีที่มาจากไหนกันแน่? หรือว่าคำว่า DOOM ถูกตั้งให้เข้ากับธีมของเกมเฉยๆ ขอบอกเลยว่าจริงๆ แล้วมันมีที่มาที่ไป โดยเรื่องเกิดจากคืนหนึ่งที่คุณจอห์น คาร์แมค และจอห์น โรเมโร ผู้ออกแบบตัวเกมได้นั่งดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ทอม ครูซ เคยร่วมแสดง ( สมัยเข้าวงการใหม่ๆ ) ซึ่งเรื่องนั้นก็คือ The Color of Money ภาพยนตร์ดราม่าและกีฬาในปี 1986 โดยจะมีฉากหนึ่งที่ Vincent Lauria ( รับบทโดยทอมครูซ ) ได้โชว์ไม้พูลแบบ Custom ให้กับอีกฝ่ายดูพร้อมกับเรียกมันว่า 'Doom' เพียงคำสั้นๆ นี้ทำให้ทั้งสองผู้ออกแบบตัดสินใจใช้ชื่อนั้นมาเป็นชื่อเกมที่เขากำลังทำ ซึ่งว่ากันว่าช่วงที่ตัดสินใช้ใช้ชื่อเกมว่า DOOM นั้นตัวเกมยังเสร็จไม่ถึงไหนเลย 

4.เมืองหมอก Silent Hill ได้รับแรงบันดาลใจมากจาก Ghost Town ของจริง?

    อีกหนึ่งเกมแนว Survival Horror ในยุค 90 ที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่เมืองชทบทเล็กๆ ที่ปกคลุมไปด้วยม่านหมอกและความลับอันดำมืดที่รอผู้เล่นอยู่ โดยว่ากันๆ ตัวเกมมีหลายๆ อย่างสร้างจากสถานที่บนโลกจริง ( ยกเว้นพวกวิญญาณและสัตว์ประหลาดต่างๆ ) โดยมีชาวเกมบังเอิญไปเจอเมืองๆ หนึ่งและนำมาเชื่อมโยงกับสถานที่ในเกม Silent Hill ภาคตำนานปี 1999 โดยเขาบอกว่า เมืองในเกมนั้นได้รับแรงบันดาลใจมากจากเมืองผี หรือ Ghost Town อย่าง 'Centralia' รัฐเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา

    สำหรับ 'Centralia'  หรือเมืองที่ได้รับขนานนามว่าเมืองผีนี้ เป็นเมืองที่มีการทำเหมืองถ่านหินมาก่อน แต่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้มาตลอด 60 ปี จนทำให้เมืองปกคลุมไปด้วยม่านควันเถ้าถ่านจนทำให้ประชากรส่วนใหญ่ต้องอพยพออกจากเมือง และหลงเหลือเพียงผู้คนไม่กี่ครัวเรือนที่ยังคงดื้อรั้นจะอยู่ ซึ่งเรื่องนี้จริงๆ มีการถกเถียงกันมาระยะหนึ่งว่าจริงหรือไม่ แต่ว่ามีเรื่องหนึ่งที่หลายๆ คนสามารถจับมาเชื่อมโยงได้นั่นคือ ละอองขาวๆ ในเกมที่หลายๆ คนคิดว่ามันคือหิมะ เราจะเห็นได้ว่าตัวเกมจะมีการบอกด้วยว่านั่นคือ ขี้เถ้าไม่ใช่หิมะ รวมถึงในภาพยนตร์ชื่อเดียวกันนี้ยังมีฉากที่ละอองขี้เถ้าตกลงมาจากฟากฟ้าอีกด้วย

5.รูปแบบการเล่นลอบเร้นของเกม Metal Gear เกิดจากข้อกำจัดทางเทคนิค

    Metal Gear Solid เป็นแฟรนไชส์เกมที่ของผู้กำกับสุดฝีมืออย่างคุณฮิเดะโอะ โคจิมะ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะยังไมารู้ว่าแฟรนไขส์เกมนี้เริ่มต้นเมื่อช่วงปี 1987 ที่ตัวเกมจะเปิดตัวบนเครื่องคอมยุค 80 อย่างเครื่อง MSX2 ซึ่งในช่วงแรกนั้นแนวคิดในการทำเกม Metal Gear ของคุณโคจิมะ เขาต้องการจะทำเป็นเกมแนวทหารบู๊แอ็กชั่น แต่เพราะว่าในช่วงนั้นเครื่องคอม MSX2 ยังไม่ได้มีสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยเหมือนสมัยนี้

    ด้วยเหตุนั้นเองทำให้เขาต้องล้มเลิกความคิดเช่นนั้น ทำให้ตอนแรกที่หวังจะเอาศัตรูมากมายมาโผล่บนหน้าจอพร้อมกันถูกปัดตกไป และเปลี่ยนมาเป็นเกมแนวลอบเร้นแทน ซึ่งก็คือตัวเกมจะสนับสนุนให้ผู้เล่นเน้นการฆ่าศัตรูแบบลอบเร้น โดยจะมีศัตรูอยู่เป็นจุดๆ แทนที่จะมาเป็นกองทัพ และถึงแม้ว่าในปัจจุบัน สำหรับ Metal Gear Solid ผู้เล่นจะมีอิสระในการเล่นมากขึ้นทั้งการเลือกได้ว่าจะบู๊หรือลอบเร้น รวมถึงอาวุธมากมายที่ทำให้ตัวเกมดูเหมือนจะหลุดกรอบเกมลอบเร้นออกไปแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากไม่มีเหตุการณ์นี้ ไม่แน่ว่าเราอาจจะไม่ได้เห็น Metal Gear Solid แบบที่เป็นอยู่ที่วันนี้ก็เป็นได้

6.That Dragon, Cancer สร้างจากเหตุการณ์ของครอบครัวที่เสียลูกไปจริงๆ

    ต่อด้วยเกมอินดี้แนวเนื้อเรื่องและผสม Adventure ที่จะให้เราได้ติดตามเรื่องของครอบครัวๆ หนึ่งที่พบว่าลูกของพวกตนกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายและจะเสียชีวิตลงในที่สุด สำหรับรูปแบบการเล่น ก็จะมีพวกมินิเกมแบบต่างๆ ให้เล่นรวมถึงมีการเดินเรื่องแบบตามเหตุการณ์ต่างๆ ในเกม โดยทั้งหมดจะนำไปสู่บทสรุปอันแสนเศร้า แต่จริงๆ แล้วเกมนี้ถูกอ้างอิงจากเหตุการณ์จริงผ่านเรื่องราวของคู่สามีภรรยาพัฒนาเกมและนักเขียนอย่างคุณ Ryan Green และ Amy Green สองคู่รักที่ต้องพบกับข่าวสุดเศร้า เมื่อรู้ว่าลูกคนที่ 3 Joel  ของพวกเขาในวัยเพียง 12 เดือนได้ตรวจพบเนื้องอกในสมอง และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 4 เดือน แต่ทั้งสองสามีภรรยา ก็ไม่ได้เอาแต่เศร้าอย่างเดียว พวกเขาก็พยายามยื้อเวลาที่มีเพื่อรักษา เพื่อที่จะได้อยู่กับ Joel ให้นานที่สุด  

    ด้วยความรักของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ที่ทำให้สามารถร่วมทุกข์สุขกันได้นานถึง 4 ปีก่อนเขาจะจากโลกไป ด้วยเหตุการณ์นี้ทั้ง Ryan Green และ Amy Green จึงตัดสินใจที่จะสร้างเกมอินดี้แนว Adventure เพื่อระลึกถึงลูกถึงเหตุการณ์นั้นที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ ถ่ายถอดอารมณ์ของพวกเขาแก่ผู้อื่น เพราะคิดว่าเกมนี่แหละจะถ่ายทอดอารมณ์ในแบบที่ภาพยนตร์ไม่สามารถทำได้ และเกมนี้ยังถูกวางจำหน่ายในปี 2016 ภายหลังจากการจากไปของ Joel 2 ปี

7.Spec Ops: The Line สร้างจากประสบการณ์ของผู้ผ่านสนามรบมาแล้ว

    เกม Spec Ops: The Line นับเป็นเกมแนวสงครามที่กระแสตอบรับในด้านของคำวิจารณ์ว่ามีความสมจริงมาก รวมถึงมีเนื้อเรื่องใกล้เคียงกับสงครามที่เกิดขึ้นจริงๆ มาก แต่ตัวเกมนั้นผู้พัฒนายืนยันชัดเจนกว่า จะไม่ได้อ้างอิงจากเหตุการณ์สงครามในประวัติศาสตร์เรื่องใดเรื่องหนึ่งแบบชัดเจน หรือเจาะจง แต่ทางทีมงาน Yager Development เผยว่าพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากวรรณกรรมเรื่องสั้นของนักเขียนชื่อดังอย่าง คุณโจเซฟ คอนราด และยังได้แรงบันดาลใจมากจาก Apocalypse Now ภาพยนตร์จิตวิทยาแล้วนั้น

    นอกจากนี้พวกเขาก็ยังได้ลงพื้นที่เพื่อไปสัมภาษณ์บรรดาทหารที่เคยรบจริงๆ หรือใครก็ตามที่เคยอยู่ในสถานการณ์แนวหน้า จากนั้นก็นำข้อมูลทั้งหมดมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเกมนี้ และอีกเรื่องที่ทำให้น่าสนใจของเกมนี้ก็คือ ตัวเกมยังมีเหตุการณ์ที่ผู้เล่นจะต้องตัดสินใจทำในเกมที่จะส่งผลกับอนาคตการเล่นด้วย ตรงจุดนี้ทีมงานตั้งใจที่จะทำให้เหมือนว่าเวลาผู้เล่นอยู่ในสนามรบเราจะตัดสินใจตามอารมณ์หรือศีลธรรม!

8.JFK Reloaded เกมที่สร้างเพื่อศึกษาวิธีลอบสังหารประธานาธิบดีเคนเนดี้

    ต่อท้ายด้วยเกม JFK Reloaded ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีทั้งเสียงวิจารณ์ในด้านลบ และด้านดี เนื่องจากนี่เป็นเกมที่อ้างอิงกล่าวถึงโศกนาฏกรรมทางการเมือง โดยรูปแบบเกมจะเป็นการจำลองเหตุการณ์จริงให้ผู้เล่นรับบทเป็นมือสังหารที่เคยมีชีวิตอยู่บนโลกจริงๆ อย่าง Lee Harvey Oswald ผู้ทำการลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 1963 ซึ่งเกมนี้ยังวางจำหน่ายในวันครบรอบ 41 ปีของเหตุการณ์นี้อีกด้วย ( 22 พฤศจิกายน 2004 ) นอกจากนี้ทีมงานพัฒนาอย่าง Traffic Management ให้เหตุผลในการทำเกมนี้ว่าพวกเขาต้องการทำเพื่อช่วย Warren Commission (คณะกรรมการประธานาธิบดีเกี่ยวกับการลอบสังหารประธานาธิบดีเคนเนดี) ในการพิสูจน์ว่ารายงานที่ทางคณะกรรมการบอกถึงวิธีการสังหารท่านประธานาธิบดีนี้มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด (หลังจากสังหารเสร็จจะมีค่าคะแนนและรายละเอียดว่าผู้เล่นได้กระทำตรงกับข้อมูลจริงมากแค่ไหน)

Credit : whatculture