เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้เขียนได้พบข่าวหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นข่าวที่ว่าด้วยกระแสของซีรีส์ The Witcher ฉบับ Netflix ที่ได้สร้างกระแสทั้งการเล่นเกมรวมถึงนวนิยายของคุณปู่ Andrzej Sapkowski ก็ขายดีเทน้ำเทท่าเช่นกัน ทำให้เราได้ลองย้อนกลับมาดูถึงเกมต่าง ๆ ที่สร้างบนพื้นฐานของนวนิยายมาก่อนและนี่คือ 10 เกมดังที่มาจากนิยายชั้นยอด
1.S.T.A.L.K.E.R. : Shadow of Chernobyl
S.T.A.L.K.E.R. เกมแนว FPS - Open World ชื่อดังที่หลาย ๆ คนน่าจะเคยเล่นกันมาแล้วไม่มากก็น้อย เนื่องจากเป็นเกมเก่าพอสมควร โดยเกมนี้ได้นำเอา Concept มาจากนวนิยาย Sci - Fi ของ Boris Strugatsky และ Arkady Strugatsky ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1972 มาสร้างเป็นเกมให้เราได้เล่นกัน ซึ่งนวนิยายกล่าวถึงพื้นที่กัมมันตรังสีที่ถูกเรียกว่า " Zone" และเหล่าเอเลี่ยนได้ลองมาท่องเที่ยวในโลกมนุษย์
2.Parasite Eve
หากพูดถึงเกม PlayStation 1 ขวัญใจของใครหลาย ๆ คนคงหนีไม่พ้น Parasite Eve อย่างแน่นอนพร้อมกับฉากอาบน้ำที่ใครหลายคนในตอนนั้นจะต้องหลง โดยเกม Parasite Eve เป็นภาคต่อของนวนิยายในชื่อเดียวกันที่เขียนโดย Hideaki Sena และตีพิมพ์ในปี 1995 ในประเภทญี่ปุ่น
3.Assassin’s Creed
หนึ่งในเกมเกี่ยวกับมือสังหารที่ยอดเยี่ยมมาก แม้ว่าปัจจุบันจะหนักออกไปทางความเป็น RPG แต่ก็ยังไม่ทิ้ง Concept เดิม โดยเกมนี้มาจากนวนิยาย Alamut ของ Vladimir Bartol ที่ตีพิมพ์ในปี 1938 ซึ่งเนื้อหาของนวนิยายจะกล่าวถึงช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11 เกี่ยวกับ Hassan-i Sabbah และมือสังหารของเขา นอกจากนี้ประโยคในตำนานอย่าง "Nothing is true, everything is permitted." ก็มาจากนวนิยายเรื่องนี้เช่นกัน
4.Suikoden
Suikoden คือเกมแนว JRPG ขึ้นหิ้งผลงานของ Yoshitaka Murayama ที่หลาย ๆ คนน่าจะจำได้ โดยตัวเกมนำมาจากนวนิยายจีนเรื่อง "ซ้องกั๋ง (Water Margin) " ผลงานของ Shī Nàiān ที่ตีพิมพ์ในศตวรรษที่ 12 ว่าด้วยเรื่องราวของคน 108 คนที่ต่างถูกข่มเหงรังแกจากทางผู้มีอำนาจ จนทนไม่ไหวและต่อต้านอำนาจรัฐ
5.Metro 2033
Metro 2033 เกมแนว FPS - Survival Horror ที่ยอดเยี่ยมมากหากใครไม่เคยเล่นแนะนำให้หามาลอง โดยตัวเกมมาจากนวนิยายเรื่องเดียวกันของ Dimitry Glukhovsky ที่ว่าด้วยเรื่องของราวของโลกที่ผู้คนอาศัยไปอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดิน (Metro) ที่มนุษย์ทุกคนจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอด
6.Spec Ops: The Line
Spec Ops: The Line เป็นหนึ่งในเกมแนวสงครามที่มีเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากเกมหนึ่ง โดยเนื้อหาในเกมได้รับแรงบันดาลใจมาจากนวนิยายเรื่อง "Heart of Darkness" ของ Joseph Conrad ที่นำเรื่องราวมาดัดแปลงเป็นแบบฉบับตะวันออกกลาง พร้อมนำเอาชื่อผู้เขียนไปตั้งพ้องเสียงเป็นตัวร้ายในเกมอย่าง john konrad อีกด้วย
7.Middle-earth: Shadow of war , Middle-earth: Shadow of Mordor
Middle-eart ถือว่าเป็นหนึ่งในฉากหลังของนิยายคลาสิคจากนักเขียนในตำนานอย่าง J. R. R. Tolkien โดยมีงานเขียนที่ได้รับความนิยมมากอย่าง The Lord of The Ring และ Hobbit ซึ่งเกมอย่าง Middle-earth: Shadow of war และ Middle-earth: Shadow of Mordor ได้นำเอาฉากหลังของเรื่องราวเหล่านี้มาทำพร้อม ที่สามารถเล่าเรื่องราวได้อย่างแนบเนียนในจักรวาลหลัก
8.Tom Clancys Splinter Cell
Tom Clancy ชื่อนี้หลาย ๆ คนย่อมจะรู้จักดีเพราะเป็นนามปากกาของยอดนักเขียนนิยายแนวหน่วยลับชื่อดัง โดยเขาได้เขียนนวนิยายหลาย ๆ เรื่องจนทาง Ubisoft ได้หยิบเอาเนื้อหาในนิยายมาทำเป็นเกมให้พวกเราได้เล่นกัน ซึ่งเกมเด่น ๆ ได้แก่ Tom Clancy : Rainbow Six , Tom Clancys Splinter Cell, Tom Clancys Ghost Recon
9.Total War : Three Kingdom
หากจะพูดถึงนวนิยายที่ถูกนำออกมาทำเป็นเกมมากที่สุดในโลกใบนี้ คงหนีไม่พ้นนวนิยายจีนจากฝีมือ ล่อกวนตงอย่างสามก็กที่เล่าเรื่องราวของสงครามจีนยุคปลายราชวงศ์ฮั่นที่กำลังล่มสลาย ขุนศึกเปิดศึกใส่กันและกันจนแผ่นดินแยกออกเป็นสามส่วน ซึ่งเกมต่าง ๆ ได้นำเอามาเป็นพื้นหลังในการพัฒนามากมายทั้ง Total War : Three Kingdom ไปจนถึง Dynasty warriors เลยทีเดียว
10.The Witcher 3 : Wild Hunt
ปิดท้ายกันด้วยนวนิยายที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้อย่าง The Witcher ที่ได้นำเอางานเขียนของ Andrzej Sapkowski มาทำเป็นเกมถึง 3 ภาค ซึ่งการที่ตัวเกมทำออกมายอดเยี่ยมด้วย ทำให้นิยายกลับมาขายดีอีกครั้ง นอกจากนี้มีข่าวลือว่าทาง CD Project Red กำลังเจรจาลิขสิทธิ์ของนิยายรอบใหม่ ไม่แน่ The Witcher 4 อาจจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้
จะเห็นได้ว่าในอุตสาหกรรมบันเทิงต่าง ๆ มักจะมีการยืมเอาไอเดียของกันไปมาเสมอ ทำให้เรารู้ว่าการที่สนับสนุนผลงานของผู้สร้างได้มากเท่าไหร่ เราจะได้เห็นงานของพวกเขาต่อยอดขึ้นมาเรื่อย ๆ ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นเกมจากนวนิยายสัญชาติไทยก็เป็นได้
Superbom001
นักเขียน
บ๋อม - Content Writer / Gamer/ Freelancer