หลังจากที่ปีนี้ทั้งโลกเกิดประสบปัญหา Covid-19 กันทั้งหมด !! หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดและจะต้องพักเบรกนานกว่า 3 เดือนนั่นก็คืออุตสาหกรรมกิฬาฟุตบอล ที่ตลาดซื้อขายกว่าจะจบสิ้นก็ปาไปถึงเดือนตุลาคม (ปกติสิ้นสุดที่สิงหาคม) ซึ่งมันทำให้เกมที่อ้างอิงจากกิฬานี้จริงๆ อย่าง FIFA 21 จะต้องถูกเลื่อนออกไป แต่ในที่สุดวันที่ 9 ตุลาคม 2020 พวกเราเหล่าเกมเมอร์ก็ได้สัมผัสเกมนี้กันแล้วหลังจากที่ได้รอมานาน รวมถึงผู้พัฒนายังเพิ่มระบบที่น่าสนใจเข้ามามากมายเลยทีเดียว ซึ่งในวันนี้ทางผู้เขียนจะมาบอกเล่าประสบการณ์หลังจากที่ได้ไปสัมผัสเกมนี้มาแล้ว และจะเปรียบเทียบจากประสบการณ์ที่เคยเล่นภาคเก่าๆ มาด้วยครับ
กราฟิก
เอาจริงๆ ในด้านกราฟิกนั้นต้องบอกว่าดูเผินๆ มันก็ดูไม่ได้แตกต่างจากภาคที่แล้วมาเสียเท่าไหร่ อาจจะมีการเพิ่มแอนิเมชันบางอย่างที่ดูใหม่ตาเข้าไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วมันก็ยังเหมือนกับภาคเดิมที่เคยทำ ยังมีโมเดลเดิมจากภาคที่แล้วมาใช้ ระบบแสงเงาของเกมเองก็ไม่ได้แตกต่างจากภาคเดิมเท่าไหร่ เป็นไปได้ว่ากราฟิกมันอาจจะอยู่ในช่วงท้ายเจนของเครื่อง Console แล้วก็ได้ ส่วนตัวเองก็เข้าใจนะและก็คงจะไม่ได้หักคะแนนในจุดนี้ ถ้าใครอยากเล่นเกม FIFA ที่กราฟิกสวยขึ้น ท่านก็อาจจะต้องรอเล่นบนเครื่อง PS5 แล้วแหละ รวมถึงโมเดลของนักเตะบางคนก็ถูกทำให้หน้าเหมือนมากขึ้น (แต่บางตัวก็ไม่ได้ทำ Mason Greenwood เด็กที่ผู้เขียนชอบ หน้า WTH มากๆ )
เกมเพลย์
ในด้านเกมเพลย์ต้องบอกว่าผู้พัฒนาค่อนข้างใส่ใจรายละเอียดมากขึ้นแต่ก่อน ผู้พัฒนาพยายามทำให้แอนิเมชันในการเล่นดูสมจริงขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่นในเรื่องของการจ่ายบอลที่ถ้าหากเราไม่หันหน้าไปตรงๆ และจ่าย นักเตะจะมีการจ่ายบอลช้าลงหรือจ่ายเสียบ่อยขึ้นมากกว่าเดิม สำหรับที่ชอบเล่นเกมแบบค่อยๆ ต่อบอลก็ต้องบอกว่าในภาคนี้ท่านก็อาจจะเล่นยากขึ้น เพราะโดยรวมแล้วถึงแม้ว่า FIFA 21 ผู้พัฒนาจะทำแอนิเมชันที่สมจริงกว่าหน่อยๆ แต่สปีดของเกมโดยรวมต้องบอกว่ามันค่อนข้างเร็วกว่าภาคก่อนหน้าอยู่เหมือนกัน
เพราะการพลิกตัว ความคล่องตัวจะค่อนข้างทำได้ดีกว่าภาคที่แล้วนั่นเอง ภายในภาคก่อนๆ หลายๆ คนคงจะรู้สึกเซ็งๆ เวลาบังคับนักเตะที่แต้มประมาณ 70-80 เพราะมันจะไม่ค่อยคล่องตัวเสียเท่าไร พลิกตัวช้าเก้ๆ กังๆ แต่ในภาคนี้เราสามารถบังคับตัวละครที่แต้มต่ำๆ ได้ดีขึ้น ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดมันจะสู้นักเตะที่แต้มสูงไม่ได้ แต่มันก็สามารถเอานักเตะพวกนี้มาเล่นแทนตัวจริงได้บางนัดแบบไม่เค๊อะเขินแต่อย่างใด
ในด้านของ A.I. จริงส่วนตัวค่อนข้างประทับใจขึ้นมา เพราะส่วนตัวผู้เขียนเองชอบเล่น Career Mode เป็นอย่างมาก โดยบอทที่ผู้เขียนพบเจอนั้นจะค่อนข้างฉลาดขึ้น ต่อบอลเก่งขึ้น และยังมีการเลี้ยงหลบเราได้บ่อยขึ้น ทำให้เราอาจจะต้องปรับตัวกันพอสมควร บางทีถ้าเข้าพรวดโดยไม่ดูเราอาจจะโดนบอทเลี้ยงหลบไปยิงได้อย่างสบายๆ ซึ่งปกติผู้เขียนเล่นกับบอทด้วยระดับความยากอย่างต่ำประมาณ Professional ขึ้นไป แต่นี่เป็นภาคแรกที่ตัวผู้เขียนเคยโดนบอทฝ่ายตรงข้ามยิงถึง 3 ลูกเลยทีเดียว
Career Mode
ภายในโหมดนี้ดูเหมือนว่าผู้พัฒนาจะใส่ใจมากกว่าภาคเก่าๆ เป็นพิเศษ อาจจะเป็นเพราะในโหมดนี้ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวมานานหลายปี (ภาคที่แล้วเพิ่มมานิดหน่อย) แต่ในภาคนี้จะมีลูกเล่นเข้ามาเพิ่มขึ้น และการเพิ่มครั้งนี้เหมือนพวกเราพยายามประกาศจุดยืนในการแข่งขันกับเกมอย่าง Footbal Manager เลยก็ว่าได้
อีกเรื่องที่ถูกเพิ่มเข้ามาคือการพัฒนาของตัวละครที่ในรอบนี้เราไม่จำเป็นต้องค่อยๆ พัฒนานักเตะทีละคนแล้ว ตัวเกมจะมีระบบการฝึกซ้อมที่จะมีโปรแกรมการฝึกที่เหมาะกับนักเตะคนนั้นๆ รวมถึงยังมีระบบค่าความฟิตและความเฉียบคมที่เราจะต้องจัด Squad ดีๆ ในการแข่งถ้าอยากให้ทีมของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุด
รวมถึงยังมีระบบอย่าง Development Growth ที่เราสามารถเลือกพัฒนานักเตะบางคนเล่นเก่งในด้านที่เราต้องการได้ อาทิเช่นเราอาจจะอยากให้นักเตะ Acadamy ของแมนยูอย่าง Scott McTominay มีทักษะในการจ่ายบอลมากขึ้น เราอาจจะตั้งค่าให้เขาพัฒนาเฉพาะจุดเป็นตำแหน่ง Deep Lying Midfielder เพื่อเน้นการจ่ายบอลนั่นเอง (แต่ส่วนอื่นๆ อย่างการป้องกันอาจจะเพิ่มน้อยลง)
และในระบบนี้มันส่งผลให้ทางผู้พัฒนาได้เพิ่มระบบใหม่เข้ามาอย่างระบบ Manager ที่เราสามารถมองลูกทีมเล่นเป็นกราฟเหมือนในเกม Football Manager อย่างไรอย่างนั้น เราสามารถแก้เกมได้ตลอดเวลาถ้าคิดว่าทีมเราเล่นไม่ดี รวมถึงถ้ายังไม่ถูกใจอีกเรายังสามารถกระโดดเข้าไปบังคับแบบ Real-Time ได้เลย ถือว่าเป็นลูกเล่นใหม่ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าโดยรวมระบบนี้มันอาจจะยังสู้เกมต้นแบบไม่ได้ แต่ถือว่าเป็นการเริ่มที่ดีและประกาศว่าในอนาคตถ้าอยากจะเล่นเกมฟุตบอล ไม่จำเป็นต้องเล่นเกมอื่นเลย เกมนี้มีทุกระบบให้คุณเล่นแล้ว !!
สรุป
โดยรวมแล้ว FIFA 21 เป็นเกมที่พัฒนาหลายๆ อย่างให้สมจริงมากขึ้น แต่มันก็อาจจะไม่ถูกใจต่อผู้เล่นบางกลุ่มที่อาจจะต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นให้เข้ากับเกมภาคใหม่นี้ และสิ่งที่สร้างเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมากก็น่าจะเป็น Career Mode ที่มีลูกเล่นสำหรับเหล่าผู้เล่นที่ชอบเล่นโหมดนี้โดยเฉพาะ มันจะทำให้คุณมีความสุขขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว แถมมันอาจจะเริ่มถูกใจเหล่าเกมเมอร์ที่ชอบเล่นเกม Football Manager แล้วด้วยก็ได้ !!
[penci_review id="69645"]
Lazefatboy
นักเขียน
จะเขียน Content มากเท่าไร !! ก็สู้สาวๆ วง TWICE ไม่ได้ !! ผ่าม !!