หลายปีมานี้พวกเราเหล่าเกมเมอร์น่าจะเคยได้เห็นความลำบากต่างๆ ของค่ายเกมที่เน้นการทำเกมเนื้อเรื่องว่ามักจะประสบปัญหาในเรื่องของการวางจำหน่าย จนทำให้หลายๆ ค่ายจะต้องปิดตัวลงไปอย่างเช่นค่ายเกมอย่าง Telltale Games เจ้าของทีมผู้สร้างเกมดีกรีรางวัล Game of the Years ปี 2012 อย่าง The Walking Dead: Telltale Series มาก่อน แต่ในภาคหลังๆ พวกเขากลับประสบปัญหาเรื่องยอดขายอย่างหนักที่ดูจากยอดขายในเกมภาค New Frontier สามารถขายไปแต่เพียงแค่ 1-2 แสนชุดเท่านั้น ซึ่งถือว่าขาดทุนย่อยยับ
หรือจะเป็นเกมของค่าย Quantic Dream อย่างเช่น Heavy Rain, Detroit: Become Human ที่ตัวเกมได้รับคำชมเป็นอย่างมากในเรื่องของเนื้อเรื่องอันยอดเยี่ยมแต่ถึงอย่างนั้นเกมของพวกเขาเองก็มียอดขายที่ไม่ได้สูงมากนักถ้าให้เปรียบเทียบกับเกม AAA ของค่ายอื่นซึ่งเกมDetroit: Become Human ในเวอร์ชั่น PS4 วางขายได้ทั่วโลกเพียงแค่ 2 ล้านชุดเท่านั้น
ไหนจะมีดราม่าต่างๆ จาก EA ที่ว่าตอนนี้ได้สั่งปิดค่ายเกมที่เน้นทำแต่เกมเนื้อเรื่องอย่างเดียวแล้วหันไปทำเกมแนว Multiplayer อย่างเดียว ซึ่งมันเลยต่างให้คนพากันคิดว่าเกมแนวนี้เนี่ยมันกำลังจะตายหรือไม่ ?
แต่พอมาดูจริงๆ แล้วนั้นลองสังเกตุสิว่ามันก็มีเกมเนื้อเรื่องดีเกมอื่นๆ ที่ยังสามารถขายเกมได้อย่างถล่มทลาย ไม่ว่าจะเป็น The Last of US ที่ขายไปเกือบ 10 ล้านชุด, Uncharted ทั้ง 4 ภาคเองก็ขายได้มากกว่า 30 ล้านชุด เฉกเช่นเดียวกับเกมระดับโคตรเนื้อเรื่องอย่าง The Witcher 3: Wild Hunt เองก็ขายไปกว่า 20 ล้านชุดไปแล้ว ซึ่งมาดูดีๆ แล้วเกมพวกนี้เองก็มีเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้เกมที่เคยมีปัญหาทั้งนั้น ซึ่งมันก็พูดได้เลยว่าเกมเนื้อเรื่องนั้นที่บอกว่ามันกำลังจะตายเนี่ย มันไม่เป็นความจริงซักนิด !! และอะไรคือเหตุผลล่ะ ??
ลองสังเกตุดูดีๆ ครับว่าเกมเนื้อเรื่องที่ประสบความสำเร็จนั้นพวกเขาเองไม่ได้ขายเพียงแค่เนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่เกมของพวกเขานั้นใส่องค์ประกอบต่างๆ ในเรื่องของเกมเพลย์ที่เข้าถึงคนกลุ่มใหญ่ได้ด้วย อย่างเช่นเกมอย่าง The Last of US หรือ Uncharted เองก็เป็นเกมที่ทำเนื้อเรื่องได้ดีไม่แพ้กับเกมค่าย Telltale หรือ Quantic Dream แต่องค์ประกอบเกมเพลย์ของพวกเขานั้นยังอยู่ในพื้นฐานของเกมตื่นเต้นเร้าใจ ที่เข้ากับคนกลุ่มแมสได้อยู่ดี
หรือถ้าให้ลึกขึ้นมาหน่อยอย่างเช่นเกม The Witcher 3 ที่มีความสุดโต่งของตัวเองอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นองค์ประกอบความเป็น RPG ของเกม ที่ทำให้เรานั้นได้เพลิดเพลินและโลดแล่นอยู่ในโลกวิชเชอร์ก็ยังมีอยู่เต็มๆ ไม่ได้ตัดทอนอะไรลงไปเลย มีแต่จะเพิ่มความยอดเยี่ยมขึ้นด้วยซ้ำ ลองดูองค์ประกอบพวกนี้จริงๆ แล้วเหมือนเป็นการซื้อ 1 ได้ถึง 2 เลยทีเดียวคือ ได้เกมเพลย์ที่เข้าถึงคนได้ง่ายด้วย และได้เนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยมด้วย หรือบางเกมต่อให้เข้าถึงยาก แต่ฐานคนเล่นเกมแนวนี้มีมาอย่างยาวนานและมากพอ
และ Quantic Dream มีความสดใหม่อยู่เสมอในเรื่องของเนื้อเรื่องใหม่ๆ พล็อตใหม่ๆ เกมเพลย์ที่ใส่รายละเอียดใหม่ๆ เข้าไป ปรับปรุงกราฟิกให้ทันสมัยอยู่ตลอด ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่หลายๆ คนจะชอบและอุดหนุนเกมของพวกเขา ทำให้เราอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ แต่ถ้าให้เปรียบเทียบอย่างเกมของ Telltale ที่ประสบปัญหายอดขายอย่างหนักก็เพราะว่าตัวเกม The Walking Dead นั้นออกมาหลายภาคมากเกินไป ทำให้แรงจูงใจในการซื้อน้อยลง รวมถึงภาคใหม่ๆ เองก็กลับทำเนื้อเรื่องได้ไม่ดีเท่าภาคแรก จึงทำให้ผู้คนนั้นหันหนีกันเยอะ
แต่ก็ต้องยอมรับตามตรงแหละว่า เกมแนวนี้เองถ้าให้เทียบกับเกมแนวตลาดทั่วไป มันก็ห่างกันอย่างฟ้ากับเหว ยิงเป็นเกมที่มี Multiplayer ด้วยห่างกว่าเดิมไปอีก จึงไม่แปลกที่ทาง EA ในตอนนี้มีนโยบายสร้างเกมให้มีระบบผู้เล่นหลายคนทุกเกม จะสั่งปิดค่ายเกมอย่าง Visceral Games ทีมผู้สร้าง Dead Space ที่หัวเด็ดตีนขาดก็อยากจะทำเกมแนว Single Player เท่านั้น รวมถึงซีรีส์นี้เองก็เป็นซีรีส์ที่ไม่ได้มียอดขายที่น่าพอใจ ขนาดเกมซีรีส์ Dragon Age หรือ Mass Effect ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่ถ้าหากว่าเขาเสนอให้ทำเกมที่จะสร้างกำไรมากขึ้น แต่ถูกปฏิเสธมันก็เลยอาจจะไปด้วยกันไม่ได้
ฉะนั้นฉะนี้ มันเลยจึงสรุปได้ว่า ไม่เป็นเรื่องจริงเลยที่จะบอกว่าเกมแนวเนื้อเรื่องมันกำลังจะตาย !! ถึงแม้ว่าเกมแนวเนื้อเรื่องอาจจะมีผู้คนสนใจแมสไม่เท่าเกมแนวอื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าคุณทำเกมที่ดีออกมา และแปลกใหม่อยู่เสมอ ยังไงผู้คนก็จะอุดหนุนคุณมากพอที่จะทำให้คุณผลักดันสิ่งที่คุณยึดมั่นต่อไปได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้มีเยอะเท่าแนวอื่นๆ ก็เถอะ ซึ่งการที่ผู้พัฒนาทีมนั้นยึดมั่นใจอุดมคติในสิ่งที่มันไม่แมสแล้วนั้น พวกเขาจะต้องทำงานให้หนักขึ้น ใส่ไอเดียใหม่ๆ ให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะถ้าหากย่ำอยู่กับที่อย่าง Telltale ผลที่ตามมามันก็จะลงเอยอย่างที่ Telltale เป็น
หลายปีมานี้พวกเราเหล่าเกมเมอร์น่าจะเคยได้เห็นความลำบากต่างๆ ของค่ายเกมที่เน้นการทำเกมเนื้อเรื่องว่ามักจะประสบปัญหาในเรื่องของการวางจำหน่าย จนทำให้หลายๆ ค่ายจะต้องปิดตัวลงไปอย่างเช่นค่ายเกมอย่าง Telltale Games เจ้าของทีมผู้สร้างเกมดีกรีรางวัล Game of the Years ปี 2012 อย่าง The Walking Dead: Telltale Series มาก่อน แต่ในภาคหลังๆ พวกเขากลับประสบปัญหาเรื่องยอดขายอย่างหนักที่ดูจากยอดขายในเกมภาค New Frontier สามารถขายไปแต่เพียงแค่ 1-2 แสนชุดเท่านั้น ซึ่งถือว่าขาดทุนย่อยยับ
หรือจะเป็นเกมของค่าย Quantic Dream อย่างเช่น Heavy Rain, Detroit: Become Human ที่ตัวเกมได้รับคำชมเป็นอย่างมากในเรื่องของเนื้อเรื่องอันยอดเยี่ยมแต่ถึงอย่างนั้นเกมของพวกเขาเองก็มียอดขายที่ไม่ได้สูงมากนักถ้าให้เปรียบเทียบกับเกม AAA ของค่ายอื่นซึ่งเกมDetroit: Become Human ในเวอร์ชั่น PS4 วางขายได้ทั่วโลกเพียงแค่ 2 ล้านชุดเท่านั้น
ไหนจะมีดราม่าต่างๆ จาก EA ที่ว่าตอนนี้ได้สั่งปิดค่ายเกมที่เน้นทำแต่เกมเนื้อเรื่องอย่างเดียวแล้วหันไปทำเกมแนว Multiplayer อย่างเดียว ซึ่งมันเลยต่างให้คนพากันคิดว่าเกมแนวนี้เนี่ยมันกำลังจะตายหรือไม่ ?
แต่พอมาดูจริงๆ แล้วนั้นลองสังเกตุสิว่ามันก็มีเกมเนื้อเรื่องดีเกมอื่นๆ ที่ยังสามารถขายเกมได้อย่างถล่มทลาย ไม่ว่าจะเป็น The Last of US ที่ขายไปเกือบ 10 ล้านชุด, Uncharted ทั้ง 4 ภาคเองก็ขายได้มากกว่า 30 ล้านชุด เฉกเช่นเดียวกับเกมระดับโคตรเนื้อเรื่องอย่าง The Witcher 3: Wild Hunt เองก็ขายไปกว่า 20 ล้านชุดไปแล้ว ซึ่งมาดูดีๆ แล้วเกมพวกนี้เองก็มีเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้เกมที่เคยมีปัญหาทั้งนั้น ซึ่งมันก็พูดได้เลยว่าเกมเนื้อเรื่องนั้นที่บอกว่ามันกำลังจะตายเนี่ย มันไม่เป็นความจริงซักนิด !! และอะไรคือเหตุผลล่ะ ??
ลองสังเกตุดูดีๆ ครับว่าเกมเนื้อเรื่องที่ประสบความสำเร็จนั้นพวกเขาเองไม่ได้ขายเพียงแค่เนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่เกมของพวกเขานั้นใส่องค์ประกอบต่างๆ ในเรื่องของเกมเพลย์ที่เข้าถึงคนกลุ่มใหญ่ได้ด้วย อย่างเช่นเกมอย่าง The Last of US หรือ Uncharted เองก็เป็นเกมที่ทำเนื้อเรื่องได้ดีไม่แพ้กับเกมค่าย Telltale หรือ Quantic Dream แต่องค์ประกอบเกมเพลย์ของพวกเขานั้นยังอยู่ในพื้นฐานของเกมตื่นเต้นเร้าใจ ที่เข้ากับคนกลุ่มแมสได้อยู่ดี
หรือถ้าให้ลึกขึ้นมาหน่อยอย่างเช่นเกม The Witcher 3 ที่มีความสุดโต่งของตัวเองอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นองค์ประกอบความเป็น RPG ของเกม ที่ทำให้เรานั้นได้เพลิดเพลินและโลดแล่นอยู่ในโลกวิชเชอร์ก็ยังมีอยู่เต็มๆ ไม่ได้ตัดทอนอะไรลงไปเลย มีแต่จะเพิ่มความยอดเยี่ยมขึ้นด้วยซ้ำ ลองดูองค์ประกอบพวกนี้จริงๆ แล้วเหมือนเป็นการซื้อ 1 ได้ถึง 2 เลยทีเดียวคือ ได้เกมเพลย์ที่เข้าถึงคนได้ง่ายด้วย และได้เนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยมด้วย หรือบางเกมต่อให้เข้าถึงยาก แต่ฐานคนเล่นเกมแนวนี้มีมาอย่างยาวนานและมากพอ
และ Quantic Dream มีความสดใหม่อยู่เสมอในเรื่องของเนื้อเรื่องใหม่ๆ พล็อตใหม่ๆ เกมเพลย์ที่ใส่รายละเอียดใหม่ๆ เข้าไป ปรับปรุงกราฟิกให้ทันสมัยอยู่ตลอด ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่หลายๆ คนจะชอบและอุดหนุนเกมของพวกเขา ทำให้เราอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ แต่ถ้าให้เปรียบเทียบอย่างเกมของ Telltale ที่ประสบปัญหายอดขายอย่างหนักก็เพราะว่าตัวเกม The Walking Dead นั้นออกมาหลายภาคมากเกินไป ทำให้แรงจูงใจในการซื้อน้อยลง รวมถึงภาคใหม่ๆ เองก็กลับทำเนื้อเรื่องได้ไม่ดีเท่าภาคแรก จึงทำให้ผู้คนนั้นหันหนีกันเยอะ
แต่ก็ต้องยอมรับตามตรงแหละว่า เกมแนวนี้เองถ้าให้เทียบกับเกมแนวตลาดทั่วไป มันก็ห่างกันอย่างฟ้ากับเหว ยิงเป็นเกมที่มี Multiplayer ด้วยห่างกว่าเดิมไปอีก จึงไม่แปลกที่ทาง EA ในตอนนี้มีนโยบายสร้างเกมให้มีระบบผู้เล่นหลายคนทุกเกม จะสั่งปิดค่ายเกมอย่าง Visceral Games ทีมผู้สร้าง Dead Space ที่หัวเด็ดตีนขาดก็อยากจะทำเกมแนว Single Player เท่านั้น รวมถึงซีรีส์นี้เองก็เป็นซีรีส์ที่ไม่ได้มียอดขายที่น่าพอใจ ขนาดเกมซีรีส์ Dragon Age หรือ Mass Effect ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่ถ้าหากว่าเขาเสนอให้ทำเกมที่จะสร้างกำไรมากขึ้น แต่ถูกปฏิเสธมันก็เลยอาจจะไปด้วยกันไม่ได้
ฉะนั้นฉะนี้ มันเลยจึงสรุปได้ว่า ไม่เป็นเรื่องจริงเลยที่จะบอกว่าเกมแนวเนื้อเรื่องมันกำลังจะตาย !! ถึงแม้ว่าเกมแนวเนื้อเรื่องอาจจะมีผู้คนสนใจแมสไม่เท่าเกมแนวอื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าคุณทำเกมที่ดีออกมา และแปลกใหม่อยู่เสมอ ยังไงผู้คนก็จะอุดหนุนคุณมากพอที่จะทำให้คุณผลักดันสิ่งที่คุณยึดมั่นต่อไปได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้มีเยอะเท่าแนวอื่นๆ ก็เถอะ ซึ่งการที่ผู้พัฒนาทีมนั้นยึดมั่นใจอุดมคติในสิ่งที่มันไม่แมสแล้วนั้น พวกเขาจะต้องทำงานให้หนักขึ้น ใส่ไอเดียใหม่ๆ ให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะถ้าหากย่ำอยู่กับที่อย่าง Telltale ผลที่ตามมามันก็จะลงเอยอย่างที่ Telltale เป็น