Difficulty หรือ ความยาก คือสีสันอย่างในโลกของเกม มันจะมอบความท้าทายอันตื่นเต้น แก่ผู้เล่นที่มีความกล้า ให้ได้ลิ้มลองถึงความโหด หิน และน่าหัวปวดที่เกมมอบให้ ซึ่งแน่นอนว่าของตอบแทนจากความยากในแต่ละครั้ง ก็มักจะเป็นสิ่งที่คุมค่าต่อการลงทุนมากเลยทีเดียว บางก็อาจจะเป็นไอเทมสุดโหด หรือเป็นชุดที่หาได้ในความยากแบบนี้อย่างเดียว ในเกม RPG อย่าง Diablo Immortal ก็มีระบบความยากเช่นเดียวกัน มันสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับผู้เล่น หรือมอบความท้าทายใหม่ ๆ ที่จะตอบแทนด้วยไอเทมสุดล้ำค่า หากคุณกล้าที่จะลอง ระดับความยากนี้มันจะถูกเรียกว่า Hell แต่อย่างไร ต่อให้จะกลัวความโหดหินแค่ไหนก็ตาม เหล่าผู้เล่นที่ต้องการพลังก็คงหนีความยากระดับไม่พ้นเช่นเดียว วันนี้ GameFeverTH จะแนะนำ ระบบความยาก หรือ Difficulty ให้ได้รู้จักกันจะเป็นอย่างไรก็ไปดูกันเลย !!

Difficulty

    Difficulty หรือก็คือระดับความยาก ซึ่งมันจะเป็นตัวกำหนดระดับความแข็งแกร่งของเหล่ามอสเตอร์ ทำให้มีความท้าทายมากขึ้นสำหรับเนื้อหาช่วงท้ายเกม การเล่นในระดับความยาก Hell จะให้รางวัลแก่อุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติที่สูงกว่าปกติ เพิ่มระดับการโจมตีและระดับการป้องกัน (ORDR) อุปกรณ์ Paragon ที่มีระดับสูงเป็นแหล่ง ORDR ที่ใหญ่ที่สุด และจำเป็นสำหรับการสริมพลังของเรา

การทำงานของระบบ Difficulty

- Diablo Immortal เริ่มต้นด้วยความยากระดับ Normal Difficulty ระดับ Hell ที่เพิ่ม ORDR ของมอนสเตอร์จะปลดล็อกเมื่อถึงเลเวลสูงสุดของตัวละคร (60) เมื่อปลดล็อคแล้ว จะสามารถเข้าสู่ Difficulty ระดับ Hell (1-4) ได้โดยไม่มีข้อจำกัด ความท้าทายที่มากขึ้นในความยากเหล่านี้จะให้รางวัลค่าแอตทริบิวต์ที่สูงขึ้น Difficulty สามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่ออยู่ใน Westmarch เท่านั้น

- Difficulty แต่ละระดับมีกรณีแยกต่างหากจากโซนสาธารณะ (ยกเว้น Westmarch) การออกมาของมอสเตอร์ และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างอิสระ ผู้เล่นสามารถเห็นพร้อมกันได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในกรณีเดียวกัน

- ความยากระดับปกติจะดรอปอุปกรณ์สำหรับตัวละครเลเวล 1-60 Difficulty ระดับ Hell แต่ละครั้งจะดรอปอุปกรณ์สำหรับช่วงระดับ Paragon ที่เฉพาะเจาะจง เราไม่สามารถสวมใส่ไอเทมที่ได้รับในระดับความยาก Hell ที่มีช่วง Paragon ที่สูงกว่าของผู้เล่นเองได้ จนกว่าจะถึงขั้นต่ำของความต้องการ

- Set Items สามารถดรอปได้ในดันเจี้ยนความยากระดับ Hell เท่านั้น

- ความยากระดับ Hell ต้องมีปาร์ตี้อย่างน้อย 2 คนเพื่อเข้าสู่ Dungeons (รวมถึง Hidden Lairs)

- ค่าประสบการณ์และรางวัลจะลดลงในความยากที่ต่ำเกินไปสำหรับระดับ Paragon ของผู้เล่น

- เควสค่าหัวและรายวันไม่สามารถทำได้ในระดับความยาก Normal เมื่อถึงเลเวลสูงสุด (60)

ข้อมูลของ Difficulty ในเกม

เทคนิคต่าง ๆ

    โดยทั่วไป เราควรเล่นในระดับความยากที่เหมาะสมกับ Paragon และ ORDR ของผู้เล่น หาก Paragon ทับซ้อนกันใน 2 ความยากที่แตกต่างกัน ให้เลือกอันที่ต่ำกว่าเพื่อประสิทธิภาพการจัดการที่เร็วขึ้น มีข้อดีบางประการในการเข้าสู่ Difficulty ระดับ Paragon ที่สูงกว่าระดับของเรา

การทำฟาร์มในโซนสาธารณะในระดับความยากที่สูงขึ้นจะมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากหาก มีผู้เล่นคนอื่นอยู่ที่นั่นน้อย เพราะจะมีการเกิดของมอนสเตอร์ที่มากขึ้นพร้อมให้จับกลุ่มและจัดการในทีเดียว นอกจากนี้บางครั้งวิธีนี้อาจจะง่ายกว่าในการทำกิจกรรมโซนเฉพาะอีกด้วย

เราสามารถเข้าร่วมกิจกรรมโซนสาธารณะในระดับ Difficulty ที่สูงขึ้นเพื่อรับรางวัลพิเศษได้ แม้ว่าผู้เล่นจะไม่มี ORDR เพียงพอสำหรับการต่อสู้ก็ตาม ติดตามโซนเหตุการณ์ Bosses ต่าง ๆ เช่น Tax Collector และ Ancient Nightmare  ปล่อยให้ผู้เล่นที่มีประสิทธิภาพสูงจัดการพวกมัน ใช้กลยุทธ์นี้เพื่อทำกิจกรรมโซนตามกำหนดให้มากกว่าหนึ่งรายการในแต่ละครั้ง เพราะกลยุทธ์นี้ค่อยข้างเสี่ยง

เราสามารถทำการฟาร์มอุปกรณ์ระดับที่สูงกว่าได้หากคุณมี ORDR เพียงพอสำหรับ Difficulty ที่สูงขึ้น ไปดันเจี้ยนหรือทำกิจกรรมให้เสร็จสิ้นในระดับความยากที่สูงขึ้น เมื่อใกล้ถึงระดับ Paragon ขั้นต่ำตามความต้องการ เก็บการอัปเกรดอุปกรณ์ใดๆ ไว้ในคลังของ และสวมใส่เมื่อมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด

หากคุณผิดหวังกับข้อจำกัดต่าง ๆ ใน Difficulty ระดับ Hell ที่กำหนดให้มีปาร์ตี้เต็มเพื่อเข้าสู่คุกใต้ดิน ให้ไปที่ Hell 1 พร้อมผู้เล่น 2 คนแทน เมื่อเราเข้ามาแล้ว ผู้เล่นคนอื่นก็สามารถออกไปได้หากต้องการ ลองรวมกลุ่มกับผู้เล่นนอกทางเข้าดันเจี้ยนหรือโพสต์ในช่องแชทดูก็อาจจะช่วยได้