คุณผู้อ่านทุกท่านเคยไป ‘งานนิทรรศการ’ กันบ้างไหม?
มันออกจะเป็นคำถามที่เรียบง่ายจนเกือบจะไร้สาระ เพราะนิทรรศการ ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเชิงพาณิชย์และศิลป์อันเป็นที่เราต่างคุ้นเคยกันอย่างดี ไม่ว่าจะนิทรรศการศิลปะ นิทรรศการสินค้า นิทรรศการภาพยนตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย หลากหลายทั้งในส่วนของขนาด และในส่วนของเนื้อหา
ถ้าเช่นนั้น ผู้เขียนขอเปลี่ยนคำถามใหม่ … คุณ ‘รู้สึก’ อย่างไรเมื่อได้เข้าไป ‘ร่วม’ นิทรรศการเหล่านั้น?
ผู้เขียนตีวงคำถามให้แคบลง แต่ก็เชื่อเหลือเกินว่าคำตอบก็น่าจะหลากหลายไม่แพ้กัน แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะมีร่วมกัน คือความรู้สึก ‘เป็นส่วนหนึ่ง’ ของการจัดแสดง ไม่ว่าจะในฐานะผู้รับชม หรือผู้ออกร้านเองก็ตาม การได้มีปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผู้สนใจ การได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันโดยเสรี การบรรลุข้อตกลงในทางธุรกิจการค้า นี่ต่างหาก ที่เป็นคุณค่าที่สำคัญของงานนิทรรศการ อันเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญไม่แพ้การโฆษณาในแบบปกติ
[caption id="attachment_46659" align="aligncenter" width="1024"] งานนิทรรศการ E3 ที่คุ้นเคย ที่อาจจะต้องผ่านเลยไปสำหรับปี 2020 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่การมีอยู่ของมันเมื่อ 25 ปีที่แล้ว[/caption]
และแวดวงวิดีโอเกมก็ไม่ต่างกัน มันเป็นงานพาณิชย์ศิลป์ที่ต้องการ ‘ความสนใจ’ และ ‘ปฏิสัมพันธ์’ ไม่ว่าจะในรูปแบบของ Business to Business (B2B) หรือ Business to Customer (B2C) ก็ตาม นั่นทำให้งานนิทรรศการจัดแสดงเกมใหญ่ๆ อย่าง Tokyo Game Show, Game Developer Conference, EGX Rezzed, PAX East ไปจนถึงมหกรรม ‘ศักดิ์สิทธิ์’ ของนักเล่นเกมอย่าง Electronic Entertainment Expo หรือ E3 ยังคงดำเนินต่อไปมาจนถึงปัจจุบัน
แต่มาในปีนี้ ดูเหมือนว่าบรรดางานนิทรรศการเกม กำลังเจอบททดสอบและมาถึงทางแยกที่สำคัญอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ ว่าวิกฤติการของ COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ได้กระเทือนถึงการคงอยู่ของนิทรรศการวิดีโอเกมอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะด้วยการยกเลิก E3 2020, การเลื่อนกำหนดของ GDC 2020, การเลื่อนกำหนดของ EGX Rezzed 2020 และ Taipei Game Show 2020 และอีกหลายสิบงานที่ได้รับผลกระทบจากการมาถึงของเชื้อร้ายที่กำลังสร้างความตื่นตระหนกเสียขวัญให้กับผู้คนทั่วโลก และไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ ในเร็ววัน
ลำพังแค่การยกเลิก E3 2020 ก็เรียกได้ว่าสะเทือนขวัญอย่างใหญ่หลวง เพราะนับตั้งแต่ปี 1995 นั้น ไม่เคยมีปีใดที่ Los Angeles Convention Center ในช่วงกลางปี จะขาดซึ่งสีสันของมหกรรมยักษ์ใหญ่ ที่เหล่าผู้รักในวิดีโอเกมและผู้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม จะได้มารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง แลกเปลี่ยน พูดคุย และได้เปิดตัวพร้อมทดสอบชิ้นงานวิดีโอเกมใหม่ ทั้งที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา และที่พร้อมจะมา Premiere เป็นครั้งแรกในงานนี้
แน่นอนว่าการยกเลิกและการเลื่อนกำหนดของบรรดานิทรรศการวิดีโอเกมเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ (ภายใต้สถานการณ์ที่สุดวิสัย…) แต่มันก็ก่อให้เกิดคำถามที่เกิดขึ้นในใจของผู้เขียนขึ้นมาประการหนึ่ง นั่นคือ…
มันยัง ‘จำเป็น’ อยู่หรือไม่ ที่แวดวงวิดีโอเกมจะต้องมี ‘นิทรรศการ’ ใหญ่ๆ เหล่านี้?
เพราะ ‘ปฏิสัมพันธ์’ ระหว่างผู้คน และการลองดูกับมือเห็นกับตา โดยเฉพาะแวดวงวิดีโอเกม ก็ยังทรงคุณค่า และมีพลังมากกว่าเพียงแค่การถ่ายทอดสด อยู่หลายร้อยหลายพันเท่า
คุณผู้อ่านทุกท่านเคยไป ‘งานนิทรรศการ’ กันบ้างไหม?
มันออกจะเป็นคำถามที่เรียบง่ายจนเกือบจะไร้สาระ เพราะนิทรรศการ ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเชิงพาณิชย์และศิลป์อันเป็นที่เราต่างคุ้นเคยกันอย่างดี ไม่ว่าจะนิทรรศการศิลปะ นิทรรศการสินค้า นิทรรศการภาพยนตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย หลากหลายทั้งในส่วนของขนาด และในส่วนของเนื้อหา
ถ้าเช่นนั้น ผู้เขียนขอเปลี่ยนคำถามใหม่ … คุณ ‘รู้สึก’ อย่างไรเมื่อได้เข้าไป ‘ร่วม’ นิทรรศการเหล่านั้น?
ผู้เขียนตีวงคำถามให้แคบลง แต่ก็เชื่อเหลือเกินว่าคำตอบก็น่าจะหลากหลายไม่แพ้กัน แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะมีร่วมกัน คือความรู้สึก ‘เป็นส่วนหนึ่ง’ ของการจัดแสดง ไม่ว่าจะในฐานะผู้รับชม หรือผู้ออกร้านเองก็ตาม การได้มีปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผู้สนใจ การได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันโดยเสรี การบรรลุข้อตกลงในทางธุรกิจการค้า นี่ต่างหาก ที่เป็นคุณค่าที่สำคัญของงานนิทรรศการ อันเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญไม่แพ้การโฆษณาในแบบปกติ
[caption id="attachment_46659" align="aligncenter" width="1024"] งานนิทรรศการ E3 ที่คุ้นเคย ที่อาจจะต้องผ่านเลยไปสำหรับปี 2020 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่การมีอยู่ของมันเมื่อ 25 ปีที่แล้ว[/caption]
และแวดวงวิดีโอเกมก็ไม่ต่างกัน มันเป็นงานพาณิชย์ศิลป์ที่ต้องการ ‘ความสนใจ’ และ ‘ปฏิสัมพันธ์’ ไม่ว่าจะในรูปแบบของ Business to Business (B2B) หรือ Business to Customer (B2C) ก็ตาม นั่นทำให้งานนิทรรศการจัดแสดงเกมใหญ่ๆ อย่าง Tokyo Game Show, Game Developer Conference, EGX Rezzed, PAX East ไปจนถึงมหกรรม ‘ศักดิ์สิทธิ์’ ของนักเล่นเกมอย่าง Electronic Entertainment Expo หรือ E3 ยังคงดำเนินต่อไปมาจนถึงปัจจุบัน
แต่มาในปีนี้ ดูเหมือนว่าบรรดางานนิทรรศการเกม กำลังเจอบททดสอบและมาถึงทางแยกที่สำคัญอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ ว่าวิกฤติการของ COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ได้กระเทือนถึงการคงอยู่ของนิทรรศการวิดีโอเกมอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะด้วยการยกเลิก E3 2020, การเลื่อนกำหนดของ GDC 2020, การเลื่อนกำหนดของ EGX Rezzed 2020 และ Taipei Game Show 2020 และอีกหลายสิบงานที่ได้รับผลกระทบจากการมาถึงของเชื้อร้ายที่กำลังสร้างความตื่นตระหนกเสียขวัญให้กับผู้คนทั่วโลก และไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ ในเร็ววัน
ลำพังแค่การยกเลิก E3 2020 ก็เรียกได้ว่าสะเทือนขวัญอย่างใหญ่หลวง เพราะนับตั้งแต่ปี 1995 นั้น ไม่เคยมีปีใดที่ Los Angeles Convention Center ในช่วงกลางปี จะขาดซึ่งสีสันของมหกรรมยักษ์ใหญ่ ที่เหล่าผู้รักในวิดีโอเกมและผู้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม จะได้มารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง แลกเปลี่ยน พูดคุย และได้เปิดตัวพร้อมทดสอบชิ้นงานวิดีโอเกมใหม่ ทั้งที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา และที่พร้อมจะมา Premiere เป็นครั้งแรกในงานนี้
แน่นอนว่าการยกเลิกและการเลื่อนกำหนดของบรรดานิทรรศการวิดีโอเกมเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ (ภายใต้สถานการณ์ที่สุดวิสัย…) แต่มันก็ก่อให้เกิดคำถามที่เกิดขึ้นในใจของผู้เขียนขึ้นมาประการหนึ่ง นั่นคือ…
มันยัง ‘จำเป็น’ อยู่หรือไม่ ที่แวดวงวิดีโอเกมจะต้องมี ‘นิทรรศการ’ ใหญ่ๆ เหล่านี้?
เพราะ ‘ปฏิสัมพันธ์’ ระหว่างผู้คน และการลองดูกับมือเห็นกับตา โดยเฉพาะแวดวงวิดีโอเกม ก็ยังทรงคุณค่า และมีพลังมากกว่าเพียงแค่การถ่ายทอดสด อยู่หลายร้อยหลายพันเท่า